"ผ่าประเด็นร้อน"
ในที่สุดพรรคการเมืองใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งไม่กี่เดือน ก็ได้เริ่มลงหลักปักฐานแล้ว เมื่อวานนี้ ( 6 ตุลาคม 2552) หลังจากมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการ ซึ่งในที่สุดสมาชิกได้ลงมติเลือก สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหน้าพรรค โดยการลงคะแนนเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) ลงคะแนนเสียงคัดเลือก
ซึ่งเป็นการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคแบบทางตรงเป็นครั้งแรก เพราะมีการเสนอชื่อบุคคลต่างๆ เข้ามาแข่งขันอย่างหลากหลาย ไม่ได้มีการกำหนดล็อกตัวบุคคลเอาไว้ล่วงหน้า หรือเป็นการเลือกตั้งให้พอเป็นพิธี ตามกฎหมายกำหนดเท่านั้น
แต่นี่เป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค ซึ่งส่วนใหญ่ได้ร่วมเหตุการณ์การต่อสู้มาอย่างยาวนาน หล่อหลอมอุดมการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถลงมติอย่างอิสระและมีเป้าหมาย
อย่างไรก็ดี มาถึงวันนี้ พรรคการเมืองใหม่ ซึ่งมีต้นกำหนดมาจากภาคประชาชนที่เรียกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทนไม่ได้กับการเมืองน้ำเน่า นักการเมืองน้ำเน่า ที่เห็นแต่ผลประโยชน์ ใช้เวทีการเมืองเป็นใบเบิกทางไปสู่อำนาจและสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองและครอบครัว
เป็นการทำธุรกิจการเมืองที่ได้ผลเร็ว
ซึ่งการเมืองแบบนี้เป็นการเมืองเก่า ที่ชาวบ้านที่เขาตื่นตัวและก้าวไปไกลกว่าพวกนักการเมืองไดโนเสาร์พวกนี้ไปไกลลิบแล้ว รู้สึกรังเกียจและขยะแขยง
ขณะเดียวกัน แม้ว่าในตอนแรกกลุ่มพันธมิตรฯไม่มีความประสงค์จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา แต่เป็นเพราะพรรคการเมืองเก่าๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดในสารบบการเมืองไทยในปัจจุบันไม่สามารถสร้างความหวัง เชื่อถือไม่ได้ องค์ประกอบภายในล้วนแล้วแต่เป็นลักษณะการเมืองเก่าๆ
ไม่ใช่เป้าหมายของประชาชนที่ร่วมต่อสู้กันมามีความหวังให้การเมืองเป็นเรื่องของการเสียสละ โปร่งใส เปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถเข้ามาแข่งขันอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม
การเมืองต้องไม่ใช่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนบุคคล หรือผลประโยชน์ของพรรค แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติส่วนใหญ่
ที่ผ่านมาเราจะพบเห็นแต่เรื่องการซื้อเสียง ซื้อส.ส. ซื้อเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล มีการลงทุนทุ่มลงไปจำนวนมหาศาล เพื่อหวังเอาคืนหลังจากที่ได้รับการเลือกตั้ง และเป็นรัฐบาล เข้ามาควบคุมนโยบายและงบประมาณของรัฐ
การเมืองน้ำเน่าดังกล่าวนับวันมีแต่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ สร้างความเสื่อมศรัทธาให้กับชาวบ้านมากขึ้นทุกวัน
และนี่คือสาเหตุของการถือกำเนิดของพรรคการเมืองใหม่ เพื่อหวังว่าจะก้าวไปสู่การเมืองใหม่ให้ได้
และนับตั้งแต่พรรคการเมืองใหม่มีหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเมืองในยุคใหม่ ซึ่งหนทางข้างหน้าจะต้องพิสูจน์กันต่อไปว่า ทั้งผู้บริหารพรรค และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ จะเดินไปถึงเป้าหมายได้หรือไม่
ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน และที่สำคัญต้องเสียสละ ล้างการเมืองเก่าให้เป็นการเมืองใหม่
และสิ่งที่ต้องเตือนกันล่วงหน้าก็คือ พรรคการเมืองใหม่ต้องไม่เดินหวนกลับไปซ้ำรอยเดิม จนกลายเป็นพรรคการเมืองน้ำเน่า เพิ่มขึ้นไปอีกพรรค ทำนองว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
นับตั้งแต่เมื่อวานนี้ ( 6 ตุลาคม) ภารกิจอีกบทหนึ่ง ที่ท้าทายของ สนธิ ลิ้มทองกุล กับคณะบริหารพรรคชุดใหม่ กำลังจะเริ่มต้น การเฝ้าจับตามองจากสังคมภายนอก หรือแม้แต่ภายในพรรคด้วยกันเอง รวมไปถึงพี่น้องประชาชนในนามพันธมิตรฯ ที่ยังเป็นองค์กรหลักจะต้องได้รับการตรวจสอบมากขึ้น
ถือเป็นบทพิสูจน์อีกขั้นหนึ่ง ว่าพวกเขาเหล่านี้จะฝ่าขวากหนาม และอุปสรรคที่เชื่อว่าจะต้องเผชิญอย่างหนักหน่วงนับจากนี้เป็นต้นไป ว่าจะสามารถทนต่อแรงเสียดทาน และรักษาอุดมการณ์ได้อย่างมั่นคง เป็นความหวังของคนไทยทุกกลุ่ม ทุกสี ได้ตามที่ประกาศเอาไว้หรือไม่
แต่เชื่อว่าด้วย การหล่อหลอมจิตใจในเหตุการณ์ต่อสู้ต่อเนื่องยาวนาน ได้อย่างแข็งแกร่ง น่าจะสร้างความหวัง เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ อย่างไรก็ดี ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน เพื่อให้ก้าวข้ามอุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้าไปให้ได้พร้อมกัน
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในนามพรรคการเมืองใหม่ เท่านั้น