ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ค้านทำประชามติ แก้ รธน.ไม่คุ้ม แตกแยกเพิ่ม เปลืองงบประมาณ แนะทำประชาพิจารณ์แทน ประกาศพรรคการเมืองใหม่ จัดประชุมใหญ่ 6 ต.ค.สมาชิกพรรคกว่า 9 พันคน โหวตเลือกหันหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ สร้างประวัติศาสตร์การเมืองใหม่ สานต่อเจตนารมณ์วีรชน 7 ตุลา
วันนี้ (4 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวถึงแนวคิดในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น แม้กระบวนการประชามติจะเป็นกระบวนการของประชาธิปไตยทางตรง และเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่การนำเอากระบวนการประชามติมาใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่เหมาะสมและไม่คุ้มทุน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นนายกฯ ก็ทราบดีว่า วิวาทะว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ถูกลากไปเป็นเกมการเมือง และเต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้นของนักการเมือง
การเอากระบวนการประชามติมาใช้ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญก็ตาม จะไม่เกิดประโยชน์อะไร เสียเวลา เปลืองงบประมาณกว่า 2000 ล้านบาท และกระบวนการประชามติ จะถูกบิดเบือนจากประเด็นแก้ หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ กลายเป็นเอาหรือไม่เอารัฐบาลชุดนี้ หรือกลายไปเป็นยุบสภาหรือไม่ยุบสภา คล้ายๆ กับกรณีการจัดทำประชามิตรับรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ก็ถูกบิดเบือนเป็นรับหรือไม่รับการรัฐประหาร 19 กันยายน จนทำให้อุณภูมิความแตกแยกในสังคมสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่าหากจะให้ดีนากยกฯ ควรจัดให้มีการประชาพิจารณ์แทนการทำประชามติจะดีกว่า เพราะจะทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และการใช้เหตุผลว่ารัฐธรรมนูญ ควรจะแก้หรือไม่อย่างไร และจะแก้กี่เรื่องกี่มาตรา ซึ่งจะทำให้สังคมหลุดออกจากวงจรความขัดแย้งในระยะยาว แต่ถ้านายกฯ และฝ่ายการเมืองยังดันทุรังจะแก้รัฐธรรมนูญในตอนนี้ไม่ว่ากระบวนการใดก็ตาม จะหนีความขัดแย้งรอบใหม่ไม่ได้อย่างแน่นอน และการแก้รัฐธรรมนูญ ก็จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ
สำหรับการประชุมใหญ่พรรคการเมืองใหม่ (กมม.) ในวันที่ 6 ตุลาคม 2552 นั้นจะจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น ที่อาคารธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งของไทยและของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะมีการเชิญสมาชิกของพรรคทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีกว่า 9 พันคน มาร่วมประชุมและทุกคนมีสิทธิเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของพรรค ซึ่งพรรคอื่นไม่ทำเพราะพรรคการเมืองอื่นๆ มีองค์ประชุมโดยใช้สมาชิกแค่ 200-300 คนมาร่วมประชุมและเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรคแต่อย่างใด จนทำให้พรรคการเมืองทั่วไปในขณะนี้ เป็นพรรคที่มีเจ้าของไม่กี่คน
การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจที่พันธมิตรฯ ต้องการให้พรรคการเมืองใหม่เป็นพรรคของมวลชน หรือ Mass Party อย่างแท้จริง และเป็นการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการเมืองไทย และ หลังประชุมครั้งนี้จะได้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จากนั้นพรรคจะจัดทำยุทธศาสตร์และแผนงานเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการระดมคนดี มีความรู้ ความสามารถมาร่วมงานกับพรรค
ส่วนงานรำลึกวันที่ 7 ตุลาคมนั้นในช่วงเช้าจะมีพิธีกรรมทางศาสนา ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และจะมีการเดินไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อประกาศภารกิจประชาธิปไตยสืบสานเจตนารมณ์วีรชน โดยเฉพาะการคัดค้านการรัฐธรรมนูญ และในช่วงบ่ายเป็นต้นไปจะมีการจัดงานที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีงานเสวนาวิชาการและดนตรีเพื่อชีวิต