เจ้ากรมชายแดนทหารยัน “ผู้นำทหาร” ไทย-เขมร รักใคร่กันดี-ยกหูคุยตลอด ตอบสถานการณ์ชายแดนสองประเทศไม่มีการเผชิญหน้าหรือตึงเครียดอย่างที่คิด เผย ผบ.สส.เฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ดังนั้น สัมพันธ์ไทย-เขมร ยังราบรื่น
วานนี้ พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน ระบุว่าไม่ยอมรับแผนที่ของประเทศไทย ทุกอย่างคิดว่าเป็นเรื่องรัฐบาลไทยและกองทัพไทย รัฐบาลกำลังทำงาน และผบ.เหล่าทัพเชื่อมั่นว่าระบบและกลไกที่มีอยู่ขณะนี้ทำงานอย่างได้ผล ซึ่งการทำงานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตติดกันมีหลายแห่ง ซึ่งต้องใช้กลไกการเจรจายึดถือในหลักกฎหมาย ต่างคนต่างทำหน้าที่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งท่านประสานความสัมพันธ์ร่วมกับผู้นำทหารของกัมพูชาตลอด เห็นว่าที่ผ่านมาติดต่อกันทางโทรศัพท์ เพื่อสร้างความเข้าใจและขจัดความไม่เข้าใจที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เมื่อผู้นำทางทหารใช้วิธีการทางโทรศัพท์พูดคุยกัน โดยไม่ใช้หนังสือหรือเอกสาร และติดต่อกันตลอดเวลา ถือว่าเป็นหลักประกันและสร้างความสบายใจได้
เมื่อถามว่า มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ท.นิพัทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ข้อมูลผิดพลาด ซึ่งกรมกิจการชายแดนทหารก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ในระดับหนึ่ง ช่วงที่มีปัญหาเราสบายใจ เพราะผู้นำสองประเทศได้โทรศัพท์หากัน ซึ่ง ผบ.ทหารสูงสุดกัมพูชาได้โทรมาหา ผบ.ทหารสูงสุดของไทย เป็นเรื่องที่น่าสบายใจ อีกทั้งผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ของไทยและกัมพูชาก็มีความแน่นเฟ้นกันดี แต่ยอมรับว่ากลไกของจีบีซีทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ส่วนปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนที่จีบีซีเสนอมา คงต้องรอให้ผ่านรัฐสภาในมาตรา 190 ก่อนจึงจะทำงานต่อไปได้ ทั้งนี้ สถานการณ์ในพื้นที่ยังปกติดี จากการยืนยันของกองทัพบก แม่ทัพภาคที่ 2 และหน่วยทหารในพื้นที่ ส่วนของกรมชายแดนทหารก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ในขอบเขตที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองดำเนินไปได้ด้วยดีในทุกระดับ
วานนี้ พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน ระบุว่าไม่ยอมรับแผนที่ของประเทศไทย ทุกอย่างคิดว่าเป็นเรื่องรัฐบาลไทยและกองทัพไทย รัฐบาลกำลังทำงาน และผบ.เหล่าทัพเชื่อมั่นว่าระบบและกลไกที่มีอยู่ขณะนี้ทำงานอย่างได้ผล ซึ่งการทำงานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตติดกันมีหลายแห่ง ซึ่งต้องใช้กลไกการเจรจายึดถือในหลักกฎหมาย ต่างคนต่างทำหน้าที่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งท่านประสานความสัมพันธ์ร่วมกับผู้นำทหารของกัมพูชาตลอด เห็นว่าที่ผ่านมาติดต่อกันทางโทรศัพท์ เพื่อสร้างความเข้าใจและขจัดความไม่เข้าใจที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เมื่อผู้นำทางทหารใช้วิธีการทางโทรศัพท์พูดคุยกัน โดยไม่ใช้หนังสือหรือเอกสาร และติดต่อกันตลอดเวลา ถือว่าเป็นหลักประกันและสร้างความสบายใจได้
เมื่อถามว่า มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ท.นิพัทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ข้อมูลผิดพลาด ซึ่งกรมกิจการชายแดนทหารก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ในระดับหนึ่ง ช่วงที่มีปัญหาเราสบายใจ เพราะผู้นำสองประเทศได้โทรศัพท์หากัน ซึ่ง ผบ.ทหารสูงสุดกัมพูชาได้โทรมาหา ผบ.ทหารสูงสุดของไทย เป็นเรื่องที่น่าสบายใจ อีกทั้งผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ของไทยและกัมพูชาก็มีความแน่นเฟ้นกันดี แต่ยอมรับว่ากลไกของจีบีซีทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ส่วนปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนที่จีบีซีเสนอมา คงต้องรอให้ผ่านรัฐสภาในมาตรา 190 ก่อนจึงจะทำงานต่อไปได้ ทั้งนี้ สถานการณ์ในพื้นที่ยังปกติดี จากการยืนยันของกองทัพบก แม่ทัพภาคที่ 2 และหน่วยทหารในพื้นที่ ส่วนของกรมชายแดนทหารก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ในขอบเขตที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองดำเนินไปได้ด้วยดีในทุกระดับ
