“ณัฐวุฒิ” ซัดรัฐไม่จริงใจแก้ปัญหาเขาพระวิหาร จี้ จัดการ “กษิต” อ้างไม่ยอมจัดการปัญหา เชื่อ ปัญหาแต่งตั้ง “ปทีป” ทำรัฐพังแน่ หลังทำข้าราชการตำรวจไม่พอใจ เผยแผนเคลื่อนไหวตลอดเดือนตุลาคม ระบุ 17 ต.ค.รวมตัวทวงถามความคืบหน้าถวายฎีกา “พ่อแม้ว” อ้างไม่ได้ก้าวล่วงพระราชอำนาจ แต่รัฐสัญญาใช้เวลาสอบ 60 วัน
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมจะมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญของ นปช.ตลอดทั้งเดือน เรียกว่า แดงทั้งเดือน เริ่มจาก 3-4 ต.ค.จะมีการเปิดโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ที่ จ.ขอนแก่น ช่วงเย็นวันเดียวกันแกนนำจากส่วนกลาง เดินทางไปร่วมงานการจัดโต๊ะจีน เพื่อหารายได้ซื้อที่ดินให้ชมรมคนรักอุดรฯ วันที่ 9-10 ต.ค.เปิดโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน พัทยา จ.ชลบุรี วันที่ 11 ต.ค.ซึ่งเป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2540 กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องทวงคืน รธน.40 และจะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อยื่นถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากไม่มีความรู้ความสามารถศักยภาพเพียงพอที่จะอยู่ในตำแหน่ง รวมทั้งที่มาก็ไม่เป็นไปตามประชาธิปไตย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันที่ 17 ต.ค.ซึ่งครบกำหนด 2 เดือน คนเสื้อแดงยื่นรายชื่อถวายฎีกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และตามที่รัฐบาลระบุว่าจะใช้เวลาพิจารณา 60 วัน เราจึงต้องจัดชุมนุมเพื่อทวงถามความคืบหน้าจากรัฐบาล โดยจะตั้งขบวนที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล ไม่มีเจตนาจะปิดล้อมแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการถามรายชื่อประชาชนถวายฎีกา 3.5 ล้านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว แต่หากรัฐบาลบอกให้รอก็จะตั้งเวทีรอ
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงเคยระบุว่า หลังจากยื่นถวายฎีกาจะไม่มีการจัดชุมนุมเคลื่อนไหว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราไม่ได้เคลื่อนไหว เพียงแต่กรณีนี้รัฐบาลไม่ทำตามที่ระบุไว้ในการตรวจรายชื่อ และรัฐบาลมีเจตนาจะดึงเวลาหน่วงเหนี่ยวออกไป ทั้งที่สำนักราชเลขาธิการให้รัฐบาลทำความเห็นประกอบพระราชดำริไปได้ กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการชุมนุมกดดัน เรายังคงรอพระบรมราชวินิจฉัย
แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวอีกว่า สำหรับวันที่ 24 ต.ค.นปช.จัดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นอกสภา ที่ฮอลล์ 6 อิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งจะเป็นการรวบรวมข้อมูลความไม่ชอบมาพากล การทุจริตในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล โดยจะมีการเชิญชวนบุคคลภายนอกที่มีข้อมูลมาร่วมอภิปรายด้วย วันที่ 31 ต.ค.จัดกิจกรรมทางศาสนาอุทิศส่วนกุศล ให้ นายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่เพื่อประชาธิปไตย
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ว่า ขณะนี้ทำท่าสถานการณ์บานปลายจากการที่นายกฯจะแต่งตั้งไม่ได้ กลายเป็นจะอยู่บนเก้าอี้ไม่ได้ แม้การจะอยู่หรือไปของนายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่เรื่องใหญ่คนเสื้อแดง แต่การที่ นายอภิสิทธิ์ กำลังใช้ความต้องการเจตนาส่วนตัวสร้างภาวะผู้นำรักษาหน้าตัวเอง กระทำการอำมหิตต่อ สตช.ทั้งองค์กร กำลังแช่แข็ง สตช.ข้าราชการกว่า 2 แสนคน ที่ต้องหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีการตั้ง ผบ.ตร.แค่ตำแหน่งเดียว รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ ยังพยายามบิดเบือนข้อมูลว่าการแต่งตั้งรักษาการ ผบ.ตร.เคยเกิดขึ้นเช่นกันในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ลงนามแต่งตั้ง พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ เป็นรักษาการ ผบ.ตร.นานถึง 6-7 เดือน กรณีดังกล่าวไม่เหมือนกัน เพราะในรัฐบาลทักษิณ ยังมีพล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ เป็น ผบ.ตร.อยู่ เพียงแต่ถูกให้ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ถือว่ายังมี ผบ.ตร.แต่ในกรณีการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.นั้นไม่ใช่ เพราะไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.และยังทำให้ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯตัดสินใจลาออกจากกรณีดังกล่าว จึงอยากตั้งคำถามไปยังนายอภิสิทธิ์ และคนในพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยออกมาระบุว่า แม้จะมีการประชุม ก.ต.ช.2 ครั้ง แต่แต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่ได้ แต่นายอภิสิทธิ์ กำลังจะเป็นพระเอก และนายกฯไม่เคยออกมาปฏิเสธ อยากถามว่า นายอภิสิทธิ์ คิดอะไรอยู่ และในความคิดว่าใครเป็นผู้ร้าย หรือว่านายอภิสิทธิ์ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
“เชื่อว่า หากนายอภิสิทธิ์ไม่สามารถยับยั้งใบลาออกของ นายนิพนธ์ รัฐบาลสะเทือนแน่ เพราะนายนิพนธ์เป็นคนรักเกียรติยศศักดิ์ศรีทางการเมืองของตัวเองมาโดยตลอด การลาออกครั้งนี้เป็นเพราะนายนิพนธ์ทนความดื้อรั้นของนายกฯไม่ไหว แม้จะพยายามอย่างที่สุดแล้ว หากนายนิพนธ์ออก จะเป็นสัญญาณอันตรายต่อพรรคประชาธิปัตย์ ในสมัย นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ มีการอภิปรายประเด็น ส.ป.ก.4-01 ช่วงนั้นคนในพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันตลอดว่าไม่มีการทุจริต แต่ นายนิพนธ์ ซึ่งขณะนั้นเป็น รมว.เกษตรฯ ตัดสินใจลาออก ก่อน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เป็น รมช.เกษตรฯ เสียอีก หลัง นายนิพนธ์ ลาออกได้ไม่นาน พรรคประชาธิปัตย์ก็มีอันเป็นไป หาก นายอภิสิทธิ์ ยับยั้งใบลาออกไม่ได้ จะเป็นสัญญาณอันตรายต่อพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ว่า ขอความจริงจากรัฐบาล กรณีกัมพูชาตัดถนนเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร อยากให้ นายอภิสิทธิ์ แสดงหลักฐานกองทัพภาคที่ 2 ที่เคยทำหนังสือมาถึงรัฐบาลนั้น ได้ทำมาเมื่อใด กี่ฉบับ และรัฐบาลได้ทักท้วงบ้างหรือไม่ หากรัฐบาลมีความจริงใจจะทำให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลนี้มีความจริงใจในการปกป้องเอกราช นอกจากนี้ ตั้งแต่ไทยมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปอยู่ที่ไหน อย่างนี้รัฐบาลจะเอาไว้ทำไม นายอภิสิทธิ์ จะเก็บไว้ทำบิดาหรืออย่างไร และการที่รัฐบาลให้คนแต่ละจังหวัดมายืนร้องเพลงชาติทุกวัน เวลา 18.00 น.และบอกว่าจะเป็นการสร้างความสามัคคี แต่ตนเห็นว่า เป็นนโยบายที่ไร้สติปัญญา สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนมากกว่า
