นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในการตอนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุม Bangkok Climate Change Talks 2009 ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญมากกับปัญหาภาวะโลกร้อน พร้อมเตรียมมาตรการรับมือปัญหาดังกล่าวแล้ว ด้านตัวแทนเด็กไทยเดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้อง พร้อมมอบกระปุกออมสินช้างที่มีเงินสมทบคนละเล็กคนละน้อยเพื่อร่วมกู้วิกิฤตโลกร้อนกับสหประชาชาติ
วันนี้ (28 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในการตอนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุม Bangkok Climate Change Talks 2009 ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานครว่า ปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความหวังและให้ความสำคัญ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อทุกคนและทั่วโลก ที่จะส่งผลกระทบในการพัฒนาในอนาคต แม้วิกฤตทางเศรษฐกิจของโลกจะเป็นอุปสรรคอย่างยิ่ง แต่เมื่อปัญหาทางเศรษฐกิจคลี่คลายลง ขั้นต่อไปของการเติบโตอย่างยั่งยืนต้องทำควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลไทย เห็นว่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่ออนาคตของทุกคนทั่วโลก ทุกประเทศมีบทบาทในการช่วยกันลดปัญหาภาวะโลกร้อน สำหรับประเทศไทยตระหนักในปัญหาโลกร้อนที่อาจมีผลระยะยาวกับผลผลิตทางการเกษตร จึงต้องวางแผนระยะสั้น และระยะยาว ที่เน้นเรื่องการลงทุน และการพัฒนาด้านการขาดแคลนอาหาร แม้ประเทศไทยมีทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย และส่งออกอาหารให้ประเทศอื่นทั่วโลก ก็มีแนวคิดด้านการประหยัดพลังงานและจะร่วมกับประเทศอาเซียนในก่อตั้งกองทุนความร่วมมือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับประเทศเกาหลี ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม แม้ที่ประชุมจะมีความแตกต่างเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ก็ขอให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนเริ่มการประชุมดังกล่าวได้มีกลุ่มตัวแทนเด็กไทยจำนวน 5 คน เดินทางมาบริเวณหน้า UN เพื่อยื่นหนังสือและเรียกร้องพร้อมมอบกระปุกออมสินช้างที่มีเงินสมทบคนละเล็กคนละน้อยเพื่อร่วมกู้วิกฤตโลกร้อน (small change for the climate) แก่อีฟ เดอ บัวร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุด เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติด้วย