ปธ.วุฒิฯ หนุนข้อเสนอ “มาร์ค” ให้ทุกภาคส่วนร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ค้านตั้ง ส.ส.ร.3-ประชามติ เหตุใช้เวลานาน
วันนี้ (21 ก.ย.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายกรัฐมนตรีว่า ตนเห็นด้วยกับแนวทางที่ประชาชนควรมีส่วนร่วมด้วย โดยให้มีตัวแทนของ ส.ส.ร.40, ส.ส.ร.50 และนักวิชาการ เข้ามาร่วมด้วย ทั้งนี้ หากภาคประชาชนเห็นด้วยก็จะทำให้การแก้ไขดำเนินไปได้ด้วยดีเป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกฝ่าย สำหรับกรอบเวลาในการพิจารณานั้น ตนดูนายกรัฐมนตรีมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาความสมานฉันท์ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงเชื่อว่าคงไม่มีการดึงเวลาหรือถ่วงเวลา ทั้งนี้กระบวนการพิจารณาสามารถทำให้เสร็จภายใน 2-3 เดือน แม้สภาจะปิดสมัยประชุมในช่วงเดือน พ.ย.ก็สามารถขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ หรือจะรอให้เปิดสมัยประชุมในเดือน ก.พ.2553 ก็ได้ ของเพียงให้รัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไข ประเด็นสำคัญอยู่ประชาชนจะต้องเห็นด้วยกับการแก้ไขในแต่ละประเด็น
เมื่อถามว่า กระบวนการที่ระบุว่าสามารถทำให้เสร็จภายใน 2-3 เดือน รวมถึงการทำประชามติด้วยหรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า การทำประชามติยังไม่สามารถทำได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ หากจะรอให้ทำประชามติคงต้องใช้เวลานาน ซึ่งการจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมทำได้โดยใช้กลไกของ ส.ส.ร.40 และส.ส.ร.50 โดยให้นักวิชาการเข้ามามีส่วนร่วมพิจารณาข้อเสนอทั้ง 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี หากจะเร่งออกกฎหมายประชามติสามารถเร่งได้ภายใน 2 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของส่วนรวม หากประชาชน อดีต ส.ส.ร. และนักวิชาการเห็นอย่างไรก็ควรให้เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามต่อว่าเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อไปคือการยุบสภาเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า เรื่องนั้นตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรที่จะคิดว่าควรทำอย่างไร
“อย่าไปพูดเรื่อง ส.ส.ร.เลย เพราะมันช้าใช้เวลาเป็นปี ผมคิดว่าท่านนายกฯ ไม่ได้มามุ่งที่จะตั้ง ส.ส.ร. หากจะพิจารณาโดยยึด 6 ประเด็นคงไม่ต้องตั้ง ส.ส.ร. แต่คงเป็นการพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ โดยให้ ส.ส.ร.40, 50 เข้ามาพิจารณาข้อเสนอทั้ง 6 ประเด็น ส่วนการเสนอร่างแก้ไขอาจเสนอมาทีเดียว 6 ร่าง ร่างใดพิจารณาแล้วตกก็ตกไปที่เหลือจะได้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้” นายประสพสุขกล่าว และว่าถึงข้อเสนอของกลุ่ม 40 ส.ว.ที่ต้องการให้มีคณะกรรมการอิสระว่าตนไม่เห็นข้อเสนอของกลุ่มอื่นนอกจากข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี
