“ประสพสุข” ชี้การแก้ รธน.ต้องขึ้นกับเสียงส่วนใหญ่ในสภา แต่อาจเกิดความขัดแย้งได้

รองประธานรัฐสภารับร่าง ส.ส.เพื่อไทย รวมตัวยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ด้าน “ประสพสุข” ขวางไม่เกี่ยวกับร่าง กก.สมานฉันท์ ชี้การแก้ไขขึ้นกับเสียงส่วนใหญ่ ยอมรับหากดันทุรังแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้ แต่ขอให้ใช้เวทีรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา

วันนี้ (7 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี นายสมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.และส.ว.ประมาณ 10 คนได้ยื่นร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่... พ.ศ... ต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา เป็นผู้รับเรื่อง

โดย นายประสพสุขกล่าวว่า จะนำเรียนนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อดำเนินการต่อไป แต่คงไม่เอาไปรวมกับรายงานสมานฉันท์ เพราะเป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวกัน เป็นการยื่นเรื่องเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนรายงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ยังมีเรื่องอื่นอีก ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการแก้เพื่อให้ ส.ว.สรรหาอยู่จนครบ 6 ปี นายประสพสุขกล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.และ ส.ว.ต้องเป็นคนแก้ การตั้งข้อสังเกตเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น อยากจะบอกตรงนี้ว่า คนมีอำนาจแก้ไขก็สามารถยื่นแก้ไขได้ อยู่ที่สียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไม่สามารถแก้ไขได้เลย เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายขู่จะยื่นถอดถอน นายประสพสุขกล่าวว่า คงไม่พิลึกอย่างนั้น คนที่มีอำนาจแก้ควรจะแก้ ถ้าคิดอย่างนั้นก็คงแก้ไม่ได้

เมื่อถามว่าอาจเกิดความวุ่นวาย ความขัดแย้งให้ในสังคม นายประสพสุขกล่าวว่า อาจจะมีบ้าง แต่เราอยู่ในระบบก็ต้องสู้กันด้วยระบบรัฐสภา ต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผล ซึ่งคงต้องเฝ้าดูกันต่อไป แต่สำหรับตนคงไม่สามารถบอกได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะต้องวางตัวเป็นกลาง ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ก็คงมาหารือ และวินิจฉัยกันในสภาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การเกิดความขัดแย้งอีกหรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า อาจจะมีส่วน แต่เราก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป