แม่ทัพภาค 4 เชื่อโจรใต้ลดเหลือ 8,000 คน ชี้ช่วงรอมฎอน เกิดเหตุร้ายรายวัน แต่สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น หลังชาวบ้านในพื้นที่ให้ร่วมมือ แจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อป้องกันและปราบปรามเหตุร้าย ขณะที่ โจรใต้พฤติกรรมโหดเหี้ยม เข่นฆ่าประชาชนบริสุทธิ์ หากปฏิบัติการสังหารเจ้าหน้าที่ไม่สำเร็จ
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่สโมสรทหารบก พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สถานการณ์ความไม่สงบภาคใต้ ว่า ในช่วงเดือนรอมฎอนพี่น้องภาคใต้จะทำความดีถือศีลอด แต่ผู้ที่ก่อความไม่สงบได้รับการสั่งสอนที่ผิดว่า ถ้าก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้ช่วงนี้จะได้บุญมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าระยะนี้จะมีการก่อเหตุเกิดขึ้น รวมทั้งช่วงนี้มีเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล 174 ตำบล และ 5 เทศบาล จึงมีการก่อเหตุหลากหลายรูปแบบ
พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ โดยเกิดการปะทะกับทางหัวหน้าตัวการใหญ่ของ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และอีกหลายพื้นที่พอสมควร ซึ่งขณะประชาชนในพื้นที่ให้ข่าวสารกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทำให้ทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการข่าวมีความพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ หากทำร้ายเจ้าหน้าที่ไม่ได้ก็จะทำร้ายประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไม่มีความเป็นมนุษย์ ซึ่งนโยบาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้ทหารไปคุ้มครองคน 2 ล้านคน ตามแนวชายแดนภาคใต้ และใน จ.สงขลา ทั้งนี้ กระบวนการตัวเลขผู้ก่อความไม่สงบมีประมาณ 8,000 คน มีทั้งแนวร่วมและผู้ปฏิบัติการ ซึ่งเราต้องยึดถือกระบวนการยุติธรรม ยึดหลักสิทธิมนุษยชนในการป้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะตัดเครือข่ายวางระเบิดได้หรือไม่ พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา สามารถตัดมือระเบิดได้ แต่ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ เมื่อถามว่า สำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.)ได้ช่วยแก้ปัญหาหรือไม่ พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวว่า ขอให้ทำจริงจังก็ดี ซึ่งการทำงานระหว่างทหารกับการเมืองไม่มีปัญหาอะไร ได้รับการดูแลจากผู้บังคับบัญชาอย่างดี เมื่อถามว่า จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์หรือไม่ พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ไม่เท่าไร แต่ขึ้นอยู่ที่การปฏิบัติจริงมากกว่า โดย “How” เป็นถือเป็นสิ่งสำคัญ