ปธ.สภา ปฏิเสธข่าวเสนอโยกงบประมาณเข้าสู่รัฐสภา รูดซิปปาก “เนวิน” จี้ “มาร์ค” แจงเหตุค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ระบุเป็นเรื่องของสภา เตือน “เสื้อแดง” ทำกรรมดีได้ดีทำกรรมชั่วได้ชั่ว “อลงกรณ์” วอน “แม้ว” เลิกป่วนประเทศเสียที
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า นายชัย ได้พูดคุยกับ รมว.คลัง ถึงการโยกย้ายงบประมาณของกระทรวงคมนาคม มาไว้ในหน่วยงานของรัฐสภา ว่า เรื่องนี้ตนไม่เคยไปพูดหรือหารืออะไรกับใครทั้งสิ้น ตนทำตามกระบวนการ ส่วนเป็นเอกสารเดิมที่ไม่มีการทำขึ้นมาใหม่ใช่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เป็นเอกสารเดิม ไม่มีอะไรใหม่ เป็นเอกสารทางราชการจะไปทำปลอมขึ้นมาได้อย่างไร ส่วนที่กล่าวว่าตนพอใจที่มีการโยกงบจำนวนดังกล่าว มาที่รัฐสภานั้นมันก็ไม่มีอะไร
“มันไม่มี ไม่ได้เข้ากระเป๋าผม เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของทางราชการ และเรื่องนี้ผมเองก็ไม่เคยน้อยใจอะไรกับใครทั้งนั้น ผมมีแต่ปรามอยู่เสมอ สื่อก็เห็นว่าผมทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรอ้อมค้อม” นายชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายชัย เปิดทางให้กับเอกชน นายชัย กล่าวว่า เราเป็นคนสาธารณะ ใครจะว่าอย่างไรเราก็ต้องก็ยอมรับ ส่วนในเรื่องของการโหวตรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณนั้น รัฐมนตรีไม่สามารถโหวตรับได้เพราะมีส่วนได้เสีย แต่หากเป็นนายกรัฐมนตรีโหวตนั้นสามารถทำได้ และตนคงไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไร เพราะทุกคนรู้เรื่องกฎหมายดี แต่ตนมองว่า ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ก็ต้องการให้งบประมาณผ่านเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศชาติ เพราะถ้าไม่มีงบประมาณ ก็คงไม่สามารถบริหารบ้านเมืองได้
สำหรับกรณีที่ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่า ต้องการให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงถึงสาเหตุการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น นายชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ทางสภาฯนั้นตนได้บรรจุเป็นวาระแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของสภา
ส่วนจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่นั้น นายชัยกล่าวว่า ไม่มีอะไร เป็นเรื่องของสภา ทางสภาจะหยิบขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ก็ได้ เป็นเรื่องของวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลที่จะต้องทำตามครรลองระเบียบของสภาฯ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา ส่วนการพิจารณาจะช้าหรือเร็วและจะมีแรงกดดันนอกสภาฯอย่างไรบ้างนั้น ตนตอบหรือวินิจฉัยไม่ได้ เพราะมันต่างจิตต่างใจ
สำหรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น หากมีการพิจารณาเร็วจะเป็นประโยชน์ ต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเวลานี้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า คนที่กำลังถูกกล่าวหาไม่ว่าใครทั้งนั้น เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดหรือถูกกล่าวหา เมื่อตัวเองสามารถพ้นมลทินได้ ก็จะเกิดความสบายใจ ส่วนจะต้องรีบพิจารณาหรือไม่ก็แล้วแต่ทางสภา
นายชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 ส.ค.ว่า ไม่ห่วงในเรื่องนี้ ใครจะทำอะไรตนไม่ห่วง ตนสมถะ ใครทำกรรมดีก็ได้ดี ใครทำกรรมชั่วก็ได้ชั่ว เป็นเรื่องของกรรม ประเทศชาติเขาสร้างมานานไม่ใช่เพิ่งสร้างมา ประเทศไทยมีมาหลายร้อยปี เพราะฉะนั้นใครจะมาทำลายประเทศไทยไม่ได้ ประเทศไทยต้องเป็นประเทศไทย
ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนอยากจะฝากไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า อย่าป่วนประเทศอีกเลย หลังจากประเทศพ้นจากจุดต่ำสุด ในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจมาแล้ว ตัวเลขการส่งออก ดัชนีความเชื่อมั่นจากต่างประเทศก็เพิ่มขึ้น ทุนสำรองมีความเข้มแข็งมากขึ้น ระดับขีดความสามารถของภาคเอกชนก็ดีขึ้น เมื่อหลายอย่างดีขึ้นโอกาสของประเทศไทย ที่จะฟื้นตัวก็มีสูงขึ้น หากพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นแก่ประชาชนโดยเฉพาะคนยากจน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจก็ควรที่จะหยุดป่วนประเทศได้แล้ว เพราะจะเป็นการตระบัดสัตย์ที่เคยบอกว่าจะหยุดความเคลื่อนไหวทางการเมือง ดังนั้น จึงไม่เป็นผลดี
นายอลงกรณ์ กล่าวด้วยว่า กลุ่มคนเสื้อแดงแม้จะมีสิทธิในการชุมนุม แต่ได้ลั่นวาจาไว้แล้วว่า เมื่อยื่นถวายฎีกาแล้วจะหยุดการเคลื่อนไหว เมื่อมีการตระบัดสัตย์เช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เสียเครดิตและขาดความเชื่อถือ แต่ควรคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ของประเทศด้วย เพราะเรื่องของภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ถ้าจะต่อสู้ก็ขอให้ดูจังหวะเวลา เรามีสภาในการที่จะต่อสู้ในระบอบประชาธิปไตย ขอวิงวอนให้เห็นแก่ชาติบ้านเมืองและประชาชน ที่ขณะนี้เริ่มมีความหวังในการฟื้นตัว