ทีมโฆษกรัฐบาล แจงเหตุการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในเขตดุสิต เป็นพื้นที่พิเศษ ระหว่าง 29 ส.ค.-1 ก.ย.ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมและห้ามใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ตามที่กำหนด
วันนี้ (25 ส.ค.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่ ครม.ได้ประกาศให้เขตดุสิต เป็นพืนที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย.และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อให้สามาถป้องกัน ควบคุม และแก้ไขเหตุการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ
นายศุภชัย กล่าวว่า ซึ่งทั้งหมดมี 3 กรณี คือ 1.การประกาศพื้นที่ 2.ประกาศเกี่ยวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.การออกข้อกำหนดตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 กำหนด 5 ข้อ คือ 1.ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินในอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน.และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน.ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน.หรือผู้แนวยการศูนย์อำนวยการ มีคำสั่ง หรือเป็นการปฏิบัติตามแผนการดำเนินการ เพื่อป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร
2.ห้ามบุคคลใดเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน.และภายในระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน.ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน.หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น 3.ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน 4.ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือใช้ยานพาหนะ หรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ทั้งนี้ ตามที่ผอ.รมน.หรือผู้อำนวยการศูนย์อำวยการประกาศกำหนด
และ 5.ให้บุคคลปฏิบัติ หรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามชนิด ประเภท ลักษณะการการใช้หรือภายในเขตบริเวณพื้นที่ที่ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน.หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน ซึ่ง ผอ.รมน.ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน.หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ จะกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามี่เห็นสมควร เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุได้