“ปชป.” ไม่เชื่อออก กม.นิรโทษกรรม สังคมจะสงบ ไม่มีชุมนุมอีก ประณามแกนนำเสื้อแดงตระบัดสัตย์ หลังยื่นฎีกาจะหยุดเคลื่อนไหว ตอกย้ำยังติดคดี ชี้ หากก่อความวุ่นวาย ศาลสั่งถอนประกันได้
วันนี้ (25 ส.ค.) นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมได้ประเมินว่าการที่คนเสื้อแดงนัดชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อขับไล่รัฐบาล ภาพของการเผาบ้านเผาเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยังหลอกหลอนประชาชนอยู่ จึงอยากเตือนไปยังคนเสื้อแดง ว่า ภาพของการเผาบ้านเผาเมืองยังหลอกลหอนประชาชนอยู่ อยากจะบอกว่า กลุ่มคนเสื้อแดงเคยพูดว่า หลังจากถวายฎีกาแล้วจะยุติการเคลื่อนไหวทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปไม่กี่วันคนเสื้อแดงกลับกลายเป็นตระบัดสัตย์ ซึ่งทำให้ประเมินว่าคนเสื้อแดงมองประชาชนคนไทยอย่างไรบ้าง เขาคิดว่าคนไทยตามความรู้สึกไม่เข้าใจหรือไงว่าคนเสื้อแดงเคยพูดอย่างหนึ่ง แต่ขณะนี้ทำอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับลูกพี่ที่อยู่ต่างประเทศเคยพูดกับประชาชนอย่างหนึ่ง แต่ตัวเองก็ทำอีกอย่างหนึ่ง แสดงว่าคนเสื้อแดงมีพฤติกรรมที่ลอกเลียนแบบมาจากลูกพี่ที่อยู่ต่างประเทศ
นายแพทย์ วรงค์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับมติ ครม.ที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อมาดูแลความสงบเรียบร้อย ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่งโดยหลักการที่ประชุม มองว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ประเมินว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือหน่วยงานจากต่างประเทศได้ประเมินเช่นนั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาทางการเมือง จึงถือโอกาสนี้ฝากเตือนไปยังมวลชนคนเสื้อแดงว่า ถ้ารักประไทยจริงโปรดคำนึงด้วยว่า วันนี้ปัญหาทางการเมืองยังเป็นปัญหาที่สำคัญ ถ้าทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ก็เชื่อว่า เศรษฐกิจไตรมาศ 3-4 จะดีขึ้นกว่านี้
นายแพทย์ วรงค์ กล่าวว่า อยากฝากเตือนไปยังแกนนำของคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้แกนนำทั้ง 3-4 คน อยู่ในระหว่างการประตัวในคดีเผาบ้านเผาเมืองของเดือนเมษายน ซึ่งเงื่อนไขที่วางไว้คือ ห้ามผู้ต้องหาส่งเสริมยั่วยุปลุกปั่นหรือกระทำการใด ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และมิให้กระทำการใด ที่เป็นอุปสรรคความเสียหาย ของการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ซึ่งหากฝ่าฝืนศาลจะสั่งถอนประกัน ตนจึงอยากจะฝากไปยังแกนนำคนเสื้อแดงให้คิดว่า บุคคลเหล่านี้ยังติดคดีของศาลอยู่ เพราะหากเกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ตนเชื่อว่าศาลจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด และอย่าโวยวายว่าศาลมีอคติต่อคนเสื้อแดงไม่ได้
ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 26-27 ส.ค.จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ทางพรรคได้แสดงความเป็นห่วงเรื่ององค์ประชุม และนายกรัฐมนตรีได้บอกที่ประชุมว่า ได้ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความกรณีที่รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.สามารถลงคะแนนได้หรือไม่ ซึ่งกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาว่า กรณีที่มีมติไม่ไว้วางใจทั้งตัวบุคคลและองค์คณะ รัฐมนตรีท่านนั้นไม่สามารถลงมติได้ และกรณีที่เป็นเรื่องส่วนตัว เช่น การพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับสุราแล้ว รัฐมนตรีท่านนั้นมีธุรกิจ หรือถือหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสุราก็ไม่สามารถลงมติได้ แต่เรื่องใดก็ตามไม่ว่า จะเป็นเรื่องระเบียบวาระ การลงมติ หรือกฎหมายอื่นๆ รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ก็สามารถลงคะแนนได้ ทั้งนี้ ความเห็นของกฤษฎีกายังอยู่ในชั้นเบื้องต้น เพราะยังมีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะมอบหมายให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ไปพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้มีความรอบคอบเกี่ยวกับองค์ประชุม
นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรม โดยความเห็นส่วนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า พร้อมที่จะให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ว่าแนวทางนั้นจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่า หากวันนี้มีกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ต่อไปจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และจะมีใครรับประกันว่า หากมีกฎหมายนิรโทษกรรมจริงสังคมจะเกิดความสงบ นอกจากนี้ ท่าทีของโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ยังสับสนจึงอยากให้พรรคเพื่อไทยทบทวนตัวเองว่าจะมีจุดยืนอย่างไร
ส่วนกรณีที่อธิการบดีมหาวิทยาลัย 57 แห่ง ออกมาคัดด้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ซึ่งที่ประชุมพรรค เห็นว่า กรเข้าชื่อถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นไม่ใช่ฎีกาเพราะเป็นการขัดต่อกฎหมายจารีตประเพณี และธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมา
วันนี้ (25 ส.ค.) นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมได้ประเมินว่าการที่คนเสื้อแดงนัดชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อขับไล่รัฐบาล ภาพของการเผาบ้านเผาเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยังหลอกหลอนประชาชนอยู่ จึงอยากเตือนไปยังคนเสื้อแดง ว่า ภาพของการเผาบ้านเผาเมืองยังหลอกลหอนประชาชนอยู่ อยากจะบอกว่า กลุ่มคนเสื้อแดงเคยพูดว่า หลังจากถวายฎีกาแล้วจะยุติการเคลื่อนไหวทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปไม่กี่วันคนเสื้อแดงกลับกลายเป็นตระบัดสัตย์ ซึ่งทำให้ประเมินว่าคนเสื้อแดงมองประชาชนคนไทยอย่างไรบ้าง เขาคิดว่าคนไทยตามความรู้สึกไม่เข้าใจหรือไงว่าคนเสื้อแดงเคยพูดอย่างหนึ่ง แต่ขณะนี้ทำอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับลูกพี่ที่อยู่ต่างประเทศเคยพูดกับประชาชนอย่างหนึ่ง แต่ตัวเองก็ทำอีกอย่างหนึ่ง แสดงว่าคนเสื้อแดงมีพฤติกรรมที่ลอกเลียนแบบมาจากลูกพี่ที่อยู่ต่างประเทศ
นายแพทย์ วรงค์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับมติ ครม.ที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อมาดูแลความสงบเรียบร้อย ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่งโดยหลักการที่ประชุม มองว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ประเมินว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือหน่วยงานจากต่างประเทศได้ประเมินเช่นนั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาทางการเมือง จึงถือโอกาสนี้ฝากเตือนไปยังมวลชนคนเสื้อแดงว่า ถ้ารักประไทยจริงโปรดคำนึงด้วยว่า วันนี้ปัญหาทางการเมืองยังเป็นปัญหาที่สำคัญ ถ้าทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ก็เชื่อว่า เศรษฐกิจไตรมาศ 3-4 จะดีขึ้นกว่านี้
นายแพทย์ วรงค์ กล่าวว่า อยากฝากเตือนไปยังแกนนำของคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้แกนนำทั้ง 3-4 คน อยู่ในระหว่างการประตัวในคดีเผาบ้านเผาเมืองของเดือนเมษายน ซึ่งเงื่อนไขที่วางไว้คือ ห้ามผู้ต้องหาส่งเสริมยั่วยุปลุกปั่นหรือกระทำการใด ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และมิให้กระทำการใด ที่เป็นอุปสรรคความเสียหาย ของการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ซึ่งหากฝ่าฝืนศาลจะสั่งถอนประกัน ตนจึงอยากจะฝากไปยังแกนนำคนเสื้อแดงให้คิดว่า บุคคลเหล่านี้ยังติดคดีของศาลอยู่ เพราะหากเกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ตนเชื่อว่าศาลจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด และอย่าโวยวายว่าศาลมีอคติต่อคนเสื้อแดงไม่ได้
ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 26-27 ส.ค.จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ทางพรรคได้แสดงความเป็นห่วงเรื่ององค์ประชุม และนายกรัฐมนตรีได้บอกที่ประชุมว่า ได้ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความกรณีที่รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.สามารถลงคะแนนได้หรือไม่ ซึ่งกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาว่า กรณีที่มีมติไม่ไว้วางใจทั้งตัวบุคคลและองค์คณะ รัฐมนตรีท่านนั้นไม่สามารถลงมติได้ และกรณีที่เป็นเรื่องส่วนตัว เช่น การพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับสุราแล้ว รัฐมนตรีท่านนั้นมีธุรกิจ หรือถือหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสุราก็ไม่สามารถลงมติได้ แต่เรื่องใดก็ตามไม่ว่า จะเป็นเรื่องระเบียบวาระ การลงมติ หรือกฎหมายอื่นๆ รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ก็สามารถลงคะแนนได้ ทั้งนี้ ความเห็นของกฤษฎีกายังอยู่ในชั้นเบื้องต้น เพราะยังมีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะมอบหมายให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ไปพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้มีความรอบคอบเกี่ยวกับองค์ประชุม
นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรม โดยความเห็นส่วนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า พร้อมที่จะให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ว่าแนวทางนั้นจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่า หากวันนี้มีกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ต่อไปจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และจะมีใครรับประกันว่า หากมีกฎหมายนิรโทษกรรมจริงสังคมจะเกิดความสงบ นอกจากนี้ ท่าทีของโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ยังสับสนจึงอยากให้พรรคเพื่อไทยทบทวนตัวเองว่าจะมีจุดยืนอย่างไร
ส่วนกรณีที่อธิการบดีมหาวิทยาลัย 57 แห่ง ออกมาคัดด้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ซึ่งที่ประชุมพรรค เห็นว่า กรเข้าชื่อถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นไม่ใช่ฎีกาเพราะเป็นการขัดต่อกฎหมายจารีตประเพณี และธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมา