xs
xsm
sm
md
lg

“บุญจง” ส่งสัญญาณเสื้อแดงป่วนเมือง ดื้อทวงถามฎีกาอภัยโทษ “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์
รมช.มหาดไทย หนุนร่างกฎหมายยังนิรโทษกรรม “เหลือง-แดง” เชื่อเป็นหนทางเดียที่จะสมานฉันท์ ส่งสัญญาณเสื้อแดงนัดชุมนุม 30 ส.ค.ส่อเค้าวุ่นวายเหตุไม่ยึดหลักการ ตะแบงทวงถามฎีกาอภัยโทษ “พ่อแม้ว” ทั้งที่ขัด กม.รธน.

วันนี้ (24 ส.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบรางวัลค่านิยมเพื่อการพัฒนาตนเอง 5 S และเข็มวิทยฐานะพร้อมใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม หลักสูตรการบริหารงานพัฒนาชุมชนระดับสูง (นพส.) รุ่นที่ 28 โดยมีนายไพรัตน์ สกลพันธุ์ อธิบดีการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนที่ผ่านการฝึกอบรม 90 คน เข้าร่วม

นายบุญจงกล่าวในระหว่างการประชุมการปิดการอบรม หลักสูตรการบริหารงานพัฒนาชุมชนระดับสูง (นพส.) รุ่นที่ 28 ในเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อนักพัฒนาชุมชนระดับสูงว่า ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจ เข้าถึง การอธิบายต่อประชาชน โดยเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ขณะนี้บ้านเมืองเกิดความแตกแยกทางสังคม แบ่งเป็นกลุ่มคนสีเหลือง กลุ่มคนสีแดง มีการต่อสู้กันเพื่อให้เกิดชัยชนะ ถ้ากลุ่มไหนแพ้ต้องถูกกล่าวหาเป็นฝ่ายที่กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าดำเนินการต่อกลุ่มคนเหล่านี้ ทำให้กฎหมายเสื่อมขาดความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปฏิบัติหน้าที่ ก็ถูกกล่าวหาว่า ทำผิดมาตรา 157 หรือถ้าทำหน้าที่เกินกว่าเหตุจะถูก ป.ป.ช. สอบ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าดำเนินการใดๆต่อกลุ่มผู้ชุมนุม นี่คือความเป็นจริงของประเทศไทย ซึ่งความแตกแยกเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้จะจบแบบไหน

“อยากจะขอให้พี่น้องข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่ทั่วประเทศร่วมกันบอกกล่าวต่อผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งประชาชนว่า วันนี้ถ้าเราเดินทิศทางเดียวกัน สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคม ถึงแม้ว่าปัญหาความแตกแยกจะเกิดขึ้นมาก แต่เราต้องช่วยกันทำความเข้าใจ ต่อผู้ที่มีความคิดแตกต่างทางการเมือง ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ในชุมชนอย่างมีความสุข” รมช.มหาดไทย กล่าว

นายบุญจงกล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโคราช มองประเทศอยู่ตลอดเวลาจะจบแบบไหน วันนี้การชุมนุมทางการเมืองทั้งเหลืองและแดง พี่น้องที่เข้าร่วมชุมนุมนั้นถือว่าเป็นผู้ที่สุจริต แต่บางครั้งของการชุมนุมได้เกิดการยั่วยุและขาดสติ สุดท้ายก็ทำลายกันและกัน ทำให้บางคนมีคดีติดตัว ก็มีคนในประเทศเรียกร้องให้มีการสมานฉันท์ แต่ไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ เพราะบางคนยังมีคดีติดตัวอยู่ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม ล่าสุดทางออกมีการร่างกฎหมาย การนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มคนทั้ง 2 กลุ่มทางการเมือง เหตุที่เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ เพราะเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศต้องการเห็นความสมานฉันท์ที่จะนำความสงบ สันติ สามัคคีคืนมา ทั้งนี้ การจะทำให้เกิดความสันติได้ต้องออกกฎหมายฉบับนี้ แม้จะมีหลายฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็ตาม

“ผมขอสันนิษฐานว่า จากนี้เป็นต้นไปเหตุการณ์ยื่นรายชื่อถวายฎีกาจะเป็นเงื่อนไขทางการเมืองจะนำไปสู่ความวุ่นวายในอนาคตไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพราะการยื่นถวายฎีกาเป็นสิ่งที่ผู้รวบรวมรายชื่อ รู้อยู่แล้วไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่สามารดำเนินการต่อไปได้ การขออภัยโทษนั้นเป็นอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่า ใครบ้างที่สามารถขออภัยโทษได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีความอาญามาตรา 259-261 การขออภัยโทษนั้นจะต้องเป็นนักโทษและคดีถึงที่สุด โดยนักโทษนั้นต้องถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำ และจะยื่นฎีกาได้เฉพาะตัวนักโทษเองหรือญาติโดยตรง โดยมีเรือนจำเป็นผู้รวบรวมเรื่องส่งต่อกระทรวงยุติธรรม จากนั้นกระทรวงยุติธรรมจะนำเรื่องยื่นถวายทูลเกล้า นี่คือขั้นตอนที่ถูกต้อง” นายบุญจงกล่าว และว่าการยื่นฎีกาที่ทำกันอยู่นี้มันไม่ใช่ ทำให้เรื่องทั้งหมดกลับมาที่รัฐบาล รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะผู้ที่จะใช้สิทธิยื่นนั้นไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย และไม่ได้ถูกคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ ในเมื่อรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ทำให้เป็นเงื่อนไขต่อผู้ชุมนุม ออกมาชุมนุมกดดันรัฐบาลว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่ยื่นเรื่องทูลเกล้าถวายฎีกา ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้กฎหมาย ออกมารวมตัวกันชุมนุมเรียกร้อง นี่คือสัญญาณต่อไปที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย

นายบุญจงกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีการเคลื่อนไหวไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค.ว่า เป็นสิทธิของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สามารถทำได้ แต่ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลุ่มเสื้อแดงจะไม่ยึดทำเนียบรัฐบาล แต่เราก็จะไม่ประมาท

“ผมอยากฝากไปถึงกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ทำอะไรขอให้นึกถึงประเทศชาติเป็นหลัก เพราะขณะนี้บ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว” นายบุญจง กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น