รัฐบาลจัดงานยิ่งใหญ่พร้อมใจกันทั้งประเทศ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ 77 พรรษา 12 สิงหาฯ จัด “คู่พระบารมี ฉัตรแก้วแห่งแผ่นดิน” ตลอดถนนราชดำเนิน จากสนามหลวง ถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ส่วนวันศุกร์ที่ 7 สิงหา จัดรายการพิเศษ “ราชินยาสิริมงคล เฉลิมพระชนมพรรษา” เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินสมทบทุนช่วยค่าใช้จ่ายโครงการในพระบรมราชินูปถัมภ์
วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา 12 สิงหาคม 2552 พร้อมด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าว โดย นายสุเทพ แถลงข่าวว่า รัฐบาลมีตั้งใจจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสอันเป็นมงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทั้ง 2 พระองค์ ในวันที่ 12 สิงหาคม และ วันที่ 5 ธันวาคม โดยรัฐบาลมีความประสงค์ให้คนทั้งประเทศร่วมแสดงความจงรักภักดี
นายสุเทพ แถลงต่อว่า โดยในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ รัฐบาลจะจัดงานทั่วประเทศ โดยร่วมกันทั้งในส่วนของจังหวัด อำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล ในการจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ พร้อมการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ แสดงผลงานสินค้าศูนย์ศิลปาชีพ โดยวันที่ 12 สิงหาคม รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ “คู่พระบารมี ฉัตรแก้วแห่งแผ่นดิน” ตลอดเส้นทางถนนราชดำเนิน ตั้งแต่สนามหลวง จนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อมกันนี้ กระทรวงต่างๆ จะจัดเวทีกิจกรรมตลอดเส้นทางถึง 7 เวที พร้อมกับมีการแสดงต่างๆ และจัดทำพิธีถวายราชสักการะที่ลานพระบรมทรงม้า ซึ่งจะมีประชาชนมาร่วมงานหลายแสนคน และเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมบริจาคสมทบในโครงการต่างๆ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม ยังจะจัดให้มีรายการพิเศษเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจของสถานีโทรทัศน์ทุกสถานี ซึ่งนอกเหนือจากฟรีทีวี ยังรวมไปถึงสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ภายใต้งาน “ราชินยาสิริมงคล เฉลิมพระชนมพรรษา” ซึ่งคำว่า “ราชินยา” เป็นคำโบราณที่เคยใช้ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีความหมายเดียวกับคำว่า ราชินูปถัมภ์ ซึ่งในรายการจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนช่วยค่าใช้จ่ายของโครงการที่อยู่ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการส่งเสริมอาชีพ (การทำฟาร์ม), สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และโครงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา 12 สิงหาคม 2552 พร้อมด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าว โดย นายสุเทพ แถลงข่าวว่า รัฐบาลมีตั้งใจจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสอันเป็นมงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทั้ง 2 พระองค์ ในวันที่ 12 สิงหาคม และ วันที่ 5 ธันวาคม โดยรัฐบาลมีความประสงค์ให้คนทั้งประเทศร่วมแสดงความจงรักภักดี
นายสุเทพ แถลงต่อว่า โดยในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ รัฐบาลจะจัดงานทั่วประเทศ โดยร่วมกันทั้งในส่วนของจังหวัด อำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล ในการจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ พร้อมการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ แสดงผลงานสินค้าศูนย์ศิลปาชีพ โดยวันที่ 12 สิงหาคม รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ “คู่พระบารมี ฉัตรแก้วแห่งแผ่นดิน” ตลอดเส้นทางถนนราชดำเนิน ตั้งแต่สนามหลวง จนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อมกันนี้ กระทรวงต่างๆ จะจัดเวทีกิจกรรมตลอดเส้นทางถึง 7 เวที พร้อมกับมีการแสดงต่างๆ และจัดทำพิธีถวายราชสักการะที่ลานพระบรมทรงม้า ซึ่งจะมีประชาชนมาร่วมงานหลายแสนคน และเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมบริจาคสมทบในโครงการต่างๆ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม ยังจะจัดให้มีรายการพิเศษเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจของสถานีโทรทัศน์ทุกสถานี ซึ่งนอกเหนือจากฟรีทีวี ยังรวมไปถึงสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ภายใต้งาน “ราชินยาสิริมงคล เฉลิมพระชนมพรรษา” ซึ่งคำว่า “ราชินยา” เป็นคำโบราณที่เคยใช้ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีความหมายเดียวกับคำว่า ราชินูปถัมภ์ ซึ่งในรายการจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนช่วยค่าใช้จ่ายของโครงการที่อยู่ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการส่งเสริมอาชีพ (การทำฟาร์ม), สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และโครงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก