“หัวขวด” บังอาจท้าองคมนตรีใช้ตำแหน่งเป็นเดิมพัน “นช.แม้ว” ฟอกเงิน

แก๊งหัวขวดสาวหาว ตะแบงเดินหน้าล่ารายชื่อถวายฎีกา “พ่อแม้ว” แน่ แหกปากโวรายชื่อทะลุหนึ่งล้านรายชื่อ กร้าวจัดชุมนุมใหญ่ 31 ก.ค.ที่ท้องสนามหลวง บังอาจท้าใช้ตำแหน่งองคมนตรี พล.อ.พิจิตร เป็นเดิมพันพิสูจน์หลักฐานนายใหญ่ฟอกเงินมาแฉ

วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยนายวีระ มุกสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ร่วมการแถลงข่าวถึงจุดยืนในการยื่นถวายฎีกาเพื่อขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดย นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เรายังคงยืนยันในความชอบธรรมในการยื่นถวายฎีกา โดยไม่หวั่นไหวกับระบอบอมาตยาธิปไตย เราทราบมาว่ามีความพยายามที่จะล้มการยื่นถวายฎีกาในครั้งนี้ ซึ่งในขณะนี้ตัวเลขของผู้ที่เข้ามาร่วมลงชื่อถวายฎีกาทะลุ 1 ล้านคนไปแล้ว และคาดว่าจะมีมากกว่านั้น เราจึงขอเดินหน้าในการเตรียมการที่จะยื่นถวายฎีกาต่อสำนักราชเลขาฯ ในเร็วๆ นี้ เพราะการดำเนินการในการถวายฎีกา เป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน ส่วนการเคลื่อนไหวในเกมล้มการถวายฎีกาในขณะนี้ทราบว่าเริ่มมีการเคลื่อนไหวจากฝ่ายอมาตยา ตั้งแต่เบี้ยยันขุน สะท้อนได้จากข่าวการประชุมองคมนตรี ที่ระบุว่ามีการหารือคัดค้านการถวายฎีกาของคนเลื้อแดง

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ตามปกติแล้วการประชุมองค์มนตรีจะเป็นความลับ อีกทั้งยังสอดคล้องกับความเลคื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย ที่มีการประชุมพรรคเพื่อหารือถึงเรื่องนี้เช่นกัน ว่าจะออกมาคัดค้านถวายฎีกาคนเลื้อแดง และทราบว่าพรรคภูมิใจไทยยังมีการเคลื่อนไหวใต้ดิน เพื่อขัดขวางในการถวายฎีกา โดยรับลูกจากฝ่ายอมาตยา ตนจึงขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการดีลมหาประลัย ระหว่างนายเนวิน-ภูมิใจไทย และฝ่ายอมาตยา เนื่องจากศาลจะตัดสินคดีกล้ายางของนายเนวินในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ซึ่งอาจจะมีการแลกเปลี่ยน รับงานในการขัดขวางในการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงกับคดีกล้ายาง คนเสื้อแดงของให้ประชาชนจับตาการตัดสินของศาลในวันที่ 17 ส.ค.นี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 31 ก.ค.นี้จะมีการชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวงเช่นเดิม และขอเรียกร้องให้ประชาชนทั่วไป และคนเสื้อแดงให้ร่วมกันใส่เสื้อสีดำ เพื่อแสดงความไว้อาลัยและเสียใจต่อการบริหารประเทศของรัฐบาล และการตกอยู่ภายใต้ระบบอมาตยของประเทศ

นายจตุพรกล่าวอีกว่า จากรายงานข่าวในที่ประชุมองคมนตรี ซึ่งมีองคมนตรีคนหนึ่ง ได้แก่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ออกมาระบุว่ามีอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งไปฟอกเงินที่เกาะเคย์แมนจำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท ตนไม่ทราบว่าสมองของพล.อ.พิจิตร เป็นอัลไซเมอร์หรือไม่ และอยากจะถามกลับไปยัง พล.อ.พิจิตร ว่า เคยมีองคมนตรีคนหนึ่งไปกินไวน์และฉี่รดกางเกงจนอับอายขายหน้าหรือไม่ ตนมองว่าข่าวการฟอกเงินดังกล่าวเป็นความพยายามจะโยงให้เห็นว่ามีการนำเงินมาใช้ในการเคลื่อนไหวถวายฎีกา จึงขอเรียกร้องให้บุคคลที่ออกมาพูดรับผิดชอบ

นายจตุพรกล่าวอีกว่า การชุมนุมที่สนามหลวงในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ตนทราบมาว่าทาง กทม.พยายามจะขัดขวางการชุมนุม โดยจะจัดงานที่ฝั่งวัดพระแก้ว ทางกลุ่มเสื้อแดงยืนว่าจะจัดงานอยู่เช่นเดิม คือตั้งแต่ 12.00 น.ของวันที่ 31 ก.ค.จนถึง 06.00 น.ของวันที่ 1 ส.ค. แต่จะย้ายไปจัดที่ฝั่งสะพานพระปิ่นเกล้า และยืนยันว่าข่าวที่ออกมาระบุว่าการยื่นถวายฎีกาจะใช้ถ้อยคำที่ไม่สมควรนั้น ตนขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงจะไม่มีใครไปเขียนถ้อยคำที่ไม่สมควรอย่างแน่นอน

“ผมของตั้งคำถามไปยัง พล.อ.เปรมว่า หากข่าวการประชุมองค์มนตรีเป็นจริง และมีความเห็นที่จะคัดค้านในการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ผมต้องถามว่าหาก พล.อ.เปรมเห็นว่าคนเสื้อแดงถวายฎีกาไม่ได้ และครั้งหนึ่งทำไมให้ พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิท ไปรับการยื่นถวายฎีกาของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้อย่างไรและไม่อายหรือ ส่วนการรับงานของพรรคภูมิใจไทย ที่จะออกมช่วยขัดขาวงคนเสื้อแดง เราจะคอยจับตาดูว่าวันที่ 17 ส.ค.ที่ศาลจะตัดสินคดีกล้ายางของนายเนวินว่าจะมีการวิ่งเต้นคดีจริงหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องแปลกที่ให้นายแก้วสรร อติโพธิ ซึ่งเคยเป็น คตส. และเป็นโจทก์ฟ้องนายเนวิน ได้กลับไปเป็นพยานให้นายเนวินในคดีดังกล่าว”

ด้าน นายวีระกล่าวว่า หากองคมนตรีไม่รู้หน้าที่ของตน แต่กลับมาพูดจาเลอะเทอะเรื่องการฟอกเงิน โดยไม่มีหลักฐาน ตนก็อยากจะพิจารณาตนเองด้วยการลาออกเสีย

เมื่อถามว่า ขั้นตอนในการดำเนินการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายณัฐวุฒิกล่าวว่า หลังจากที่รวบรวมรายชื่อ และมีการตรวจสอบรายชื่อเสร็จสิ้น เราก็จะไปถวายฎีกาที่สำนักราชเลขาฯ และจะหยุดดำเนินการในทันที

ด้าน นายนพดล ปัททมะ อดีตทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีการเคลื่อนไหวด้วยวิธีการฟอกเงินตามที่มีรายงานข่าวที่ พล.อ.พิจิตร ออกมาระบุ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการฟอกเงินเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย จึงอยากจะขอเรียกร้องให้ พล.อ.พิจิตร ออกมาเปิดเผยว่าอดีตนายกฯ คนดังกล่าวคือใคร สังคมจะได้หมดความสงสัย เพราะเรื่องเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ อีกทั้งที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถูกไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าในการทำทีวีดาวเทียม โดยเมื่อวานที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งท่านได้บอกกับตนว่ากำลังเร่งดำเนินการในเรื่องของเนื้อหาของทีวีช่องต่างๆ อยู่ อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเข้ามาร่วมรายการในการบรรยายเกี่ยวกับเศรษฐกิจด้วย