“กษิต” แก้มปริ อาเซียนร่วมมือดี กำลังเปลี่ยนบทบาทเป็นประชาคม

“กษิต” เผยอาเซียนกำลังเปลี่ยนเป็นประชาคม ยันต่างประเทศร่วมมือฝ่าฝันวิกฤต ชาวโรฮิงยาอาจมีเฮได้รับสิทธิเช่นเดียวกับผู้ประสบภัยนาร์กีส เชื่อเลือกตั้งพม่ากดดันทำงานร่วมกันได้

วันนี้ (20 ก.ค.)นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่า ถ้อยแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนั้นมีความรู้สึกว่าปัจจุบันอาเซียนมีบทบาทที่กำลังจะเป็นประชาคมแล้ว รวมทั้งร่วมกันทำงานเพื่อฝ่าฟันแก้ไขปัญหาร่วมกันภายในครอบครัวของอาเซียนที่จะต้องพึ่งพาตนเอง โดยเฉพาะการให้คำมั่นเรื่องบทบาทรวมทั้งต้องกำหนดทิศทางเป้าหมายของอาเซียน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนี้ที่ประชุมอาเซียนกำลังดำเนินการหารือเรื่องผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮิงยา โดยเลขาธิการอาเซียนจะเป็นผู้รวบรวมข้อมูล และอาจจะช่วยเหลือเช่นเดียวกันกับช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุไซโคลนนาร์กีส อย่างไรก็ตาม มองว่ากรณีที่พม่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2553 นั้นจะส่งผลให้ทำงานร่วมกันได้ ขณะเดียวกัน การประชุมในครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนความร่วมมือของอาเซียนด้วย

นายกษิต กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศพม่า ทราบดีถึงจุดประสงค์การตั้งองค์กรสิทธิมนุษย์ชน ก็เพื่อผลักดันอาเซียนไปข้างหน้า ด้วยเหตุนี้คาดว่าประเทศพม่าจะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ด้วยกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงถึงร่าง TOR การตั้งคณะกรรมาธิการองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน ว่า สมาชิกของแต่ละประเทศจะตั้งคณะกรรมการเพื่อเข้าสู่กลไก เพราะ TOR เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพื่อคุ้มครองแต่ละประเทศในอาเซียน ดังนั้นกรรมาธิการนี้จะถูกจับตามองทั้งภายในและภายนอก อย่างไรก็ตามร่าง TOR ฉบับดังกล่าวไม่มีบทลงโทษประเทศที่ไม่ดำเนินการตามกฎ เพราะแต่ละประเทศมีกฎบัตรอาเซียนที่ใช้เป็นกรอบในการทำงานอยู่แล้ว

พร้อมกันนี้ นายกษิตตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ กรณีที่อินโดนีเซียผิดหวังที่องค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียนไม่ดำเนินการมากเพียงพอ โดยมองว่าอินโดนีเซียเป็นความร่วมมือหลักของอาเซียน อีกทั้งสิ่งที่อินโดนีเซียให้กับอาเซียนนั้นเป็นประโยชน์ต่ออาเซียนมาก รวมถึงให้ความเห็นชอบในกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียนด้วย