สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เผยความสำเร็จนายกฯลงพื้นที่บุรีรัมย์ แนะให้ลงทุกพื้นที่รายสัปดาห์เพื่อติดตามนโบบายและชี้แจงผลงาน
วันนี้ (12 ก.ค.)นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จ. บุรีรัมย์ว่า ในนามของกรรมการบริหารพรรคขอสนุบสนุนการลงพื้นที่ของนายกฯ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ และขอเสนอว่าควรจะมีโปรแกรมลงพื้นที่อย่างน้อยเดือนละ2 ครั้ง หรือถ้าเป็นไปได้อาทิตย์ละครั้งก็จะถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งและ นอกจากการลงพื้นที่ทุกภาคแล้ว ควรจะลงพื้นที่ตามสภาพปัญหาด้วย เช่น ในพื้นที่ที่เผชิญกับปัญหาในจ.สระบุรี กรณีของความเดือดร้อนจากบ่อขยะ ถ้าเป็นความเดือดร้อนของประชาชน นายกฯควรจะลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อรับทราบปัญหาและนำข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจแก้ปัญหา
นายสาธิตกล่าวว่า ประโยชน์ของการลงพื้นที่ของนายกฯถือว่าเป็นการตรวจสอบว่าได้มีการปฏิบัติตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้หรือไม่ เพราะบางทีรัฐบาลประกาศนโยบายไว้อย่างหนึ่ง แต่ปฏิบัติในพื้นที่ประชาชนไม่ได้รับผลประโยชน์ หรือแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง เมื่อนายกฯลงพื้นที่ก็จะได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงในเชิงลึกจากประชาชน ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่ปั้นแต่งไปเสนอผู้มีอำนาจ และประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตามก็จะได้พบกับตัวนายกฯ เพราะบางทีประชาชนรู้จักนายกฯจากข้อมูลเพียงด้านเดียว แต่เมื่อได้สัมผัสตนที่แท้จริงก็จะเข้าใจนายกฯได้มากยิ่งขึ้น ว่านายกฯเป็นคนที่มีบุคลิกจริงใจในการแก้ปัญหา และยังเป็นการลดความขัดแย้งของประชาชนทั้งสองกลุ่ม โดยเฉพาะประชาชนในภาคอีสานจะได้รับรู้ว่ารัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรให้กับประชาชนทุกภาคทุกจังหวัด เช่นกรณีอุตสาหกรรมมาบตาพุต ที่เจอปัญหาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม นายกฯจะได้รับทราบว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร
วันนี้ (12 ก.ค.)นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จ. บุรีรัมย์ว่า ในนามของกรรมการบริหารพรรคขอสนุบสนุนการลงพื้นที่ของนายกฯ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ และขอเสนอว่าควรจะมีโปรแกรมลงพื้นที่อย่างน้อยเดือนละ2 ครั้ง หรือถ้าเป็นไปได้อาทิตย์ละครั้งก็จะถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งและ นอกจากการลงพื้นที่ทุกภาคแล้ว ควรจะลงพื้นที่ตามสภาพปัญหาด้วย เช่น ในพื้นที่ที่เผชิญกับปัญหาในจ.สระบุรี กรณีของความเดือดร้อนจากบ่อขยะ ถ้าเป็นความเดือดร้อนของประชาชน นายกฯควรจะลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อรับทราบปัญหาและนำข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจแก้ปัญหา
นายสาธิตกล่าวว่า ประโยชน์ของการลงพื้นที่ของนายกฯถือว่าเป็นการตรวจสอบว่าได้มีการปฏิบัติตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้หรือไม่ เพราะบางทีรัฐบาลประกาศนโยบายไว้อย่างหนึ่ง แต่ปฏิบัติในพื้นที่ประชาชนไม่ได้รับผลประโยชน์ หรือแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง เมื่อนายกฯลงพื้นที่ก็จะได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงในเชิงลึกจากประชาชน ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่ปั้นแต่งไปเสนอผู้มีอำนาจ และประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตามก็จะได้พบกับตัวนายกฯ เพราะบางทีประชาชนรู้จักนายกฯจากข้อมูลเพียงด้านเดียว แต่เมื่อได้สัมผัสตนที่แท้จริงก็จะเข้าใจนายกฯได้มากยิ่งขึ้น ว่านายกฯเป็นคนที่มีบุคลิกจริงใจในการแก้ปัญหา และยังเป็นการลดความขัดแย้งของประชาชนทั้งสองกลุ่ม โดยเฉพาะประชาชนในภาคอีสานจะได้รับรู้ว่ารัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรให้กับประชาชนทุกภาคทุกจังหวัด เช่นกรณีอุตสาหกรรมมาบตาพุต ที่เจอปัญหาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม นายกฯจะได้รับทราบว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร