xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก หน.พรรค ปชป.เตือน “เป็ดเหลิม” ตักน้ำใส่กะโหลก ก่อนท้า “มาร์ค” ดีเบต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
“เทพไท” อัด “เป็ดเหลิม” เปรียบหมาขี้ชอบยกหาง แนะตักน้ำใส่กะโหลก สะเออะ ท้า “มาร์ค” ดีเบต เหน็บ “ป๋าเหนาะ” ฝันยกฐานะย้ายจากกระต๊อบขึ้นตึก เตือนดู รธน.ม.104 เปิดช่องให้ควบรวมพรรคได้หรือไม่

วันนี้ (2 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ตนได้สนับสนุน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้ขึ้นรั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า น่าเสียดายที่ ร.ต.อ.เฉลิม ได้ประกาศไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยทั้งที่มีความเหมาะสมและมีผลงาน เพราะได้ทำหน้าที่ในสภาเหมือนเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภามานานแล้ว เพราะเป็นผู้อภิปรายนำ และไม่จำกัดเวลาในการอภิปรายมาโดยตลอด แต่ ร.ต.อ.เฉลิม กลับปฏิเสธว่าไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขอแค่เป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเท่านั้น พร้อมอวดอ้างคุณสมบัติว่าคุณสมบัติไม่แพ้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม พร้อมที่จะท้าดีเบตกับนายอภิสิทธิ์ตลอดเวลา

“ท่านควรไปสร้างความยอมรับจาก ส.ส.ในพรรคให้เขาโหวตให้ท่านเป็นหัวหน้าพรรคให้ได้เสียก่อน ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ ก็ได้ แต่วันนี้จะมาท้านายกฯ ให้ดีเบต ขอถามว่าจะท้าในฐานะอะไร เพราะปกติหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยหนีเวทีดีเบตทางการเมือง นับแต่การเลือกตั้งทั่วไปปี 2550 ที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนขณะนั้นหนีการดีเบตมาตลอด จึงขอให้รอโอกาสในการเลือกตั้งครั้งต่อไปให้หัวหน้าพรรเพื่อไทยตัวจริงมาดีเบตกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เวทีไหนก็ได้ ขอเพียงอย่าส่งประเภทพวกมวยแทนมาดีเบตเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนความรู้ความสามารถของ ร.ต.อ.เฉลิม กับนายอภิสิทธิ์นั้น ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ควรตัดสินด้วยตัวเองว่าเหนือกว่านายอภิสิทธิ์ เพราะประชาชนคนไทยทั้งประเทศย่อมรู้ดีว่าใครมีความสามารถมากกว่ากัน เพียงแต่คนโบราณเคยบอกไว้ว่า สุนัขเวลาจะถ่าย มันจะยกหางของมันเอง”

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ยอมรับว่าได้รับการทาบทามให้มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่พรรคเพื่อไทยจะมีหัวหน้าพรรคเป็นตัวเป็นตนเสียที และคิดว่าเป็นโชคดีของนายเสนาะที่บั้นปลายชีวิตทางการเมืองที่จากพรรคประชาราช ซึ่งมี ส.ส.เพียง 9 คน จะขยับมาเป็นหัวหน้าพรรคใหญ่ที่มี ส.ส.ถึง 180 คน โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงเสียเวลาในการเลือกตั้ง ได้เปลี่ยนจากอยู่กระต๊อบไปอยู่ตึก ไม่ว่าโครงสร้างรากฐานของตึกจะไม่แข็งแรงก็ตาม แต่สิ่งที่นายเสนาะจะต้องเร่งทำ คือต้องไปจัดการบรรดาว่าที่ลูกพรรคที่ออกมาขัดขวางไม่ให้มาเป็นหัวหน้า อย่างไรก็ตาม ตนยังมีข้อสงสัยว่านายเสนาะจะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร หากจะมีการควบรวมพรรคเช่นเดียวกับที่พรรคไทยรักไทยในอดีตเคยทำโดยควบรวมพรรคเสรีธรรม ชาติพัฒนาและความหวังใหม่ เหมือนควบรวมบริษัทของนักธุรกิจซึ่งคนพรรคเพื่อไทยมีความถนัดในฐานะที่เป็นนักธุรกิจการเมือง แต่อยากแนะนำอีกว่าให้ไปดูรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 104 ว่าจะเปิดโอกาสให้ควบรวมพรรคหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น