xs
xsm
sm
md
lg

ช่อง 3 หนาว “สาทิตย์” ไม่การันตีต่อสัญญาสัมปทาน โยนบอร์ด อสมท จัดการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ
รัฐมนตรีคุมสื่อเผยสัญญาสัมปทานช่อง 3 จะหมดอายุปี 53 ชี้ต้องคุยผลประโยชน์ร่วมกันก่อน หลังที่ผ่านมาผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับต่ำกว่าบริษัทอื่น โยนบอร์ด อสมท พิจารณาอีกครั้ง ไม่มั่นใจจะต่ออายุสัญญาหรือไม่ ย้ำต้องรักษาผลประโยชน์ให้มากที่สุด

วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าในการต่ออายุสัญญาสัมปทานการทำสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 หลังจากที่สัญญาซึ่งบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ทำไว้กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จะหมดลงในปี 2553 ว่า ทางบริษัท บีอีซีเวิร์ลฯได้ทำหนังสือมาถึงคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ด อสมท แล้ว และบอร์ด อสมท ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาข้อเสนอของบริษัทบีอีซีเวิร์ลฯ ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันต่อไป แต่หลักการคือ 1.ต้องรักษาผลประโยชน์ของ อสมท ดังนั้น ผลประโยชน์ตอบแทนก็ควรจะมีในระดับที่คุ้มค่าทางธุรกิจต่อ อสมท เนื่องจากเดิมมีการแก้ไขสัญญาค่าสัมปทานสมัย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ โดยมีการอ้างว่าเศรษฐกิจไม่ดีเลยต้องตั้งค่าสัมปทานไว้ตายตัว โดยเมื่อไปเทียบกับผลประโยชน์ที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำไว้กับ อสมท เพื่อทำโทรทัศน์ช่องทรูวิชั่น ปรากฏว่า บริษัททรูฯ จ่ายผลประโยชน์มากกว่าเยอะมาก ดังนั้น การต่อสัญญาสัมปทานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ต้องคิดถึงผลประโยชน์ให้มากเข้าไว้ เพราะ อสมท เป็นบริษัทมหาชนที่ต้องทำกำไร โดยเบื้องต้นผลประโยชน์ที่อสมท.จะได้รับจากบริษัทเอกชนที่จะมาทำสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จะต้องไม่น้อยกว่าที่บริษัทเอกชนอื่นให้ไว้

เมื่อถามว่าจะเปิดประมูลเพื่อให้บริษัทเอกชนเข้ามาแข่งขัน แทนที่จะให้บริษัท บีอีซีเวิลด์ต่อสัญญาในลักษณะผูกขาดรายเดียวหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า แล้วแต่บอร์ด อสมท จะพิจารณาอย่างไร แต่การเปิดประมูลใหม่กับให้รายเดิม มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน โดยการให้รายเดิมต่อสัญญา บางอย่างที่ตกลงกันเขาได้ลงทุนไปก่อนแล้ว ถ้าเป็นรายใหม่เข้ามาก็จะต้องมีวงเงินลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะรับไหวหรือเปล่า เพราะ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำลังจะออกมาบังคับใช้ ซึ่งจะทำให้วิธีการบริหารสัมปทานสัญญาเปลี่ยนไปอีก

เมื่อถามว่า แสดงว่าการต่ออายุสัมปทานกับช่อง 3 ต้องรอกฎหมายใหม่ใช่หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า กฎหมายยังไม่แน่จะออกเมื่อใด อาจจะกลางปี 2553 ด้วยซ้ำ ขณะที่สัมปทานจะหมดลงต้นปี 2553 จึงอาจจะต้องพิจารณาสัญญาก่อน ไม่ใช่ว่ารอให้กฎหมายออกก่อนแล้วค่อยต่อสัญญา เพราะจะทำให้เกิดช่องว่างที่คล้ายการต่อสัญญาให้โดยปริยาย ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ตระกูลมาลีนนท์มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค จะส่งผลต่อการต่ออายุสัญญาสัมปทานหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลต้องตัดสินใจบทพื้นฐานเพื่อรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ บอร์ด อสมท ก็จะต้องตัดสินใจบนพื้นฐานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) คงไม่ตัดสินใจว่าใครเป็นพวกใคร

นายสาทิตย์ยังกล่าวถึงคดีความต่างๆของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ว่า คดีเก่าๆทางบอร์ด อสมท ก็รื้อขึ้นมาดูใหม่ เช่น ที่ดินตาบอดที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตผอ.บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ทางบอร์ด อสมท ก็กำลังเจรจากับรถไฟฟ้าเพื่อให้ที่ดินตาบอด กลายเป็นที่ตาไม่บอด เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ส่วนคดีฉ้อโกงของบริษัท ไร่ส้ม ครีเอชั่น จำกัด ซึ่งมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวชื่อดังเป็นผู้บริหาร ก็เป็นเรื่องที่มีการดำเนินการทั้ง 2 ข้าง จึงต้องขึ้นอยู่กับการบังคับคดี โดยขณะนี้เรื่องอยู่ที่ทั้งตำรวจและอัยการ
กำลังโหลดความคิดเห็น