xs
xsm
sm
md
lg

“ไอ้กี้” วอนคุกขึ้นเวทีหางแดงปลุกไล่ “มาร์ค”- ขู่ล้มองคมนตรี/ศาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หัวโจกคนเสื้อแดง
“อริสมันต์” ส่อกลับเข้าซังเต ฐานทำผิดเงื่อนไขประกันตัว หลังขึ้นเวทีเสื้อแดงสนามหลวง ด่า “มาร์ค” เป็นแมงดา และเป็นนายกฯ ที่คนเกลียดมากที่สุดในโลก แถมปลุกระดมกล่าวหารัฐบาลอภิสิทธิ์ถ่วงความเจริญ ทำนายอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน เพราะแก้วิกฤตไม่ได้ เหิมหนักขู่ล้มสถาบันองคมนตรี-ศาล แล้วตั้งศาลประชาชนมาแทน กล่าวหารัฐบาลกู้เงินไว้ตอบแทนทหาร-พันธมิตรฯ-ภูิมิใจไทยที่ช่วยอุ้ม ปชป.

เมื่อเวลาประมาณ 04.50 น.วันที่ 28 มิ.ย.นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ผู้ต้องหาคดีก่อความไม่สงบในบ้านเมือง และยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ระหว่างประกันตัว ได้ขึ้นเวทีปราศรัยของคนเสื้อที่ท้องสนามหลวง โดยได้กล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นเหมือนแมงดา เพราะเกาะหลังหลังคนอื่นขึ้นมา แม้นายอภิสิทธิ์ อาจจะเป็นนายกฯ ที่หล่อที่สุดในประเทศไทย แต่เป็นนายกฯ ที่มีคนเกลียดมากที่สุดในโลก

นายอริสมันต์ อ้างว่า สาเหตุที่ตนพาเสื้อแดงไปบุกการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่พัทยา ก็เพื่อที่จะบอกว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ที่คนไทยไม่ยอมรับให้เป็นผู้นำและไม่ให้เป็นนายกฯ อีกต่อไป และขอบอกว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ สร้างหนี้สร้างสินให้ประเทศ นายอภิสิทธิ์ ไม่มีประสบการณ์การบริหาร มีแต่ไปกู้เงินมา เพราะฉะนั้นขอทำนายว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่เกิน 3 เดือน เพราะวิกฤตปัญหาเศรษฐกิจจะทำลายรัฐบาลอภิสิทธิ์

นอกจากนี้ ยังมีวิกฤตปัญหาภาคใต้ที่รัฐบาลแก้ไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็คุยว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลปัญหาภาคใต้จะจบ แต่ทุกวันนี้ ตำรวจทหารครูถูกฆ่ารายวันมากกว่าสมัยไหนๆ ที่ผ่านมา “ภาคใต้กำลังจะถูกแบ่งแยกดินแดนแล้ว ไอ้อภิสิทธิ์มึงไปซุกหัวอยู่ที่ไหน” นายอริสมันต์กล่าวอย่างหยาบคาย

นายอริสมันต์ ยังกล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ ไปไหนก็ไม่ได้รับการยอมรับ วันก่อนจะไปเซ็นทรัลต้องใช้ตำรวจ 400 คนไปสกัดคนเสื้อแดง แต่ก็ยังถูกโห่ไล่อยู่ดี ต่างชาติถ้าเป็นอย่างนี้เขาไม่มาเป็นนายกฯ ให้เสียชื่อเสียง เขาลาออกไปแล้ว เพราะถ้าเป็นนายกฯ ต้องเป็นด้วยความสง่างามเป็นเกียรติเป็นศรีของคนทั้งหมด

อดีตนักร้องเสียงเหมือนอมลูกกวาด กล่าวต่อว่า วิกฤตที่ 3 เป็นวิกฤตเกี่ยวกับสถาบัน ตั้งแต่องคมนตรีลงมาจนถึงศาล และทหารที่รวบรวมอำนาจไปสู่อีกฝั่งหนึ่ง สักวันหนึ่งประชาชนจะรวมตัวกันเพื่อล้มสถาบันพวกนี้ แล้วมีศาลประชาชนขึ้นมา แล้วเอาคนพวกนี้ขึ้นศาลประชาชน

นายอริสมันต์ อ้างอีกว่า รัฐบาลนี้รอให้กู้เงินมาได้เพื่อเอาไปให้คนที่อุ้มรัฐบาล คือ ทหาร พันธมิตรฯ และพรรคภูมิใจไทย ทหารก็จะได้งบประมาณลงภาคใต้เป็นแสนล้าน ส่วนพันธมิตรฯ ก็จะเกี้ยเซี้ยเรื่องคดีความทั้งหมด คนเสื้อเหลืองยึดทำเนียบ ยึดสนามบินก็ยังไม่ฟ้อง อ้างว่า ยังหาหลักฐานไม่ได้ ทีคดีคนเสื้อแดงทำไมดำเนินการอย่างรวดเร็ว นี่คือ 2 มาตรฐานอย่างชัดเจน ส่วนพรรคภูมิใจไทย นั้น นายอภิสิทธิ์ ต้องอนุมัติโครงการรถเมล์ 4 พันคัน ให้คนกลุ่มนี้ก่อนจึงจะยุบสภา

อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย กล่าวต่อว่า ปัญหาวิกฤตหลัก คือ องค์กรที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองวางตัวไม่เป็นกลาง และจากที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้อภิปรายในสภา เกี่ยวกับคนเสื้อน้ำเงิน ซึ่งมีข้อความ สงบ สันติ สามัคคี ขอถามว่าสามัคคีพ่อมันหรือ มีทั้งมีด ปืน ระเบิด แล้วยังเอาตำรวจไปจับตนที่บ้านแล้วพาไปที่ศาลอาญา (วันที่ 12 เม.ย.)

“พอไปที่ศาลอาญาเสร็จ ก็เอาขึ้นเครื่องบิน เปลี่ยนจาก ฮ.ลำเล็ก เป็น ฮ.ลำใหญ่ แถมเพิ่มตำรวจเป็น 6 คน ขอถามว่า มึงเป็นคนสั่งให้เอากูไปทิ้งใช่ไหม ไอ้สุเทพ” นายอริสมันต์ ปราศรัยด้วยคำหยาบคายต่อเนื่อง

นายอริสมันต์ กล่าวต่อว่า วันนั้นตนตั้งใจจะไม่ให้ ฮ.พาออกนอกเขตกรุงเทพฯ เพราะไม่เช่นนั้นตนต้องตายแน่นอน และคิดว่า ถ้าต้องตายก็ขอแลกด้วยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือ ประชาธิปไตยที่คนเสื้อแดงต้องการ ตนจึงถาม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ขึ้น ฮ.ไปด้วยกันว่าพร้อมหรือไม่ เมื่อนายจตุพร บอกว่า พร้อม ตนจึงจัดการกับตำรวจที่อยู่ข้างๆ ก่อนที่จะไปจัดการกับนักบิน เพราะตอนนั้นได้ตัดสินใจว่าจะขอตายในเขตกรุงเทพฯ เพื่อให้ทั้งโลกได้รู้ และวันนั้นถ้าตนต้องตายเชื่อว่า นายอภิสิทธิ์ ต้องถูกคนเสื้อแดงกระทืบตายแน่ แต่หลังจากนั้น ตำรวจก็เอาเครื่องลงฉุกเฉิน และนายจตุพร ก็เอามือมาตบบ่าบอกว่าพอแล้ว ตำรวจเขายอมแล้ว ตนจึงหยุด ไม่เช่นนั้นเครื่องคงจะตกที่สาธร และเมื่อตำรวจพาตนไปที่ค่ายนเรศวร เมื่อไปถึงก็ได้รับเสียงปรบมือเพราะตำรวจที่นั่นเป็นคนเสื้อแดงทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว เรามีทั้งตำรวจที่เข้าใจ และมีพรรคการเมืองของเราเอง

อนึ่ง นายอริสมันต์ ถูกจับกุมในดคีก่อความวุ่นวายระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยาเมื่อวันที่ 11 เม.ย.และคดีกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ซึ่งพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัว แต่มีข้อห้ามออกนอกประเทศ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองยุยงหรือปลุกระดม และห้ามยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีของพนักงานสอบสวน

สำหรับการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ได้สลายการชุมนุมแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ที่ผ่านมา หลังจาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนคนเสื้อแดง ได้มาปราศรัยแนะนำวิธีการจูนเครื่องรับโทรทัศน์ชมรายการของดีสเตชั่น และบอกว่า แม้การชุมนุมวันนี้จะเห็นคนมาเยอะ แต่การชุมนุมของคนเสื้อแดงต่อไปนี้จะเร่งน็อกไม่ได้ ต้องสู้ยาว ซึ่งถ้าครบยกถึงไม่น็อกก็ชนะคะแนน หลังจากนั้น ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วแยกย้ายการออกสนามหลวง ขณะที่มีการเปิดเพลง “ชนะแน่นอน” ส่งผู้ชุมนุม




กำลังโหลดความคิดเห็น