มทภ.2 เผยไทย-เขมร ตรึงกำลังแน่นชายแดน แต่เคลียร์ใจแล้วว่ากรณีคัดค้านพระวิหารเป็นนโยบายรัฐ ระบุเน้นการเจรจา ไม่ใช้กำลังทหารก่อน ด้าน “บิ๊กป๊อก” ลั่นอย่าประมาท สั่งปรับกำลังทหารผลัดเปลี่ยนตลอดเวลา ชี้ถึงไม่วางใจสนิทก็ไม่เปิดฉากใช้อาวุธก่อนแน่
วันนี้ (22 มิ.ย.) พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ที่แต่ละฝ่ายมีการตกลงกัน เพื่อรอให้คณะกรรมการชายแดนหารือพูดคุยกันชี้ขาดถึงปัญหาดังกล่าว โดยจากการเดินทางไปที่เขาพระวิหารในการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น เขาก็ยืนยันว่า จะรักษาอธิปไตยและวางกำลังอยู่ต่อไป ซึ่งเราก็จะไม่มีการขยับ ไม่มีการถอนกำลัง แต่กำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายต้องอยู่ในกรอบ และยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น
สำหรับกรณีที่ประเทศไทยได้ยื่นคัดค้านการเสนอปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกต่อคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกนั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีปัญหากันหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่นโยบายของรัฐบาล โดยทหารมีหน้าที่รักษาอธิปไตย ซึ่งจากการพูดคุยกับ ผบ.ทหารสูงสุด ของกัมพูชาแล้ว เขาก็มีความเข้าใจว่าเป็นนโยบายรัฐบาล และทหารจะต้องทำตามหน้าที่ โดยยืนยันว่า เราจะไม่มีการรุกราน หรือไม่ใช้กำลังทหารก่อน
“ณ เวลานี้เราพูดคุยกันเป็นอย่างนี้ อนาคตเป็นเช่นไรก็แล้วแต่สถานการณ์ ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็บอกว่า ให้ดูแลพื้นที่และอย่าประมาท แก้ปัญหาด้วยการใช้เจรจา โดยเรามีการปรับกำลังเข้าไปในพื้นที่ เพื่อเสริมในส่วนที่อ่อนล้าให้กำลังทหารมีความสดชื่นมากที่สุด และให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่ทางกัมพูชาต้องยอมรับว่าเขามีการเสริมกำลังเข้ามาในพื้นที่มากกว่าทางฝั่งไทย” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการที่ทางฝั่งกัมพูชาเสริมกำลังมากขึ้น แสดงว่า ขณะนี้แต่ละฝ่ายต่างไม่ไว้วางใจในสถานการณ์หรือไม่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ กำลังทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่วางใจซึ่งกันและกัน ทุกอย่างอยู่ที่สถานการณ์ แต่เรายืนยันว่าจะไม่มีการเปิดฉากใช้อาวุธก่อนแน่นอน