18 มิ.ย.51 ---- ไม่มีพื้นที่ใดเลยของประเทศไทยที่ถูกกัมพูชาลุกล้ำเข้ามา แม้แต่ตารางนิ้วเดียว ทั้งนี้ ไม่ได้ปกปิดแผนที่ฉบับใหม่ เพราะเพิ่งได้เซ็นเอกสารเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) เช่นเดียวกับกัมพูชา จึงนำออกมาเปิดเผยได้ ส่วนพื้นที่ทับซ้อนนั้น จะต้องไปเจรจากับกัมพูชาร่วมกัน เพื่อทำแผนบริหารจัดการต่อไป เรื่องดังกล่าวเป็นการเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างประเทศ ไม่เกี่ยวข้องกับสนธิสัญญาระหว่างประเทศตาม ม.190 จึงไม่จำเป็นต้องนำเข้าสภาฯพิจารณา
20 มิ.ย.52----เรื่องนี้ในสมัยตนเป็น รมว.ต่างประเทศ และ นายปองพล อดิเรกสาร กรรมการมรดกโลก ได้คัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารไปแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.2551 เพราะต้องทำตามคำสั่งของศาลปกครอง และได้ค้านเอกสารทุกชิ้นที่กัมพูชายื่นประกอบ ทำให้ประเทศไทยไม่เสียสิทธิทางเขตแดนใดๆ ตามที่นายกฯ เข้าใจ และการที่คณะกรรมการอนุมัติขึ้นทะเบียนมรดกโลกประสาทพระวิหาร เพราะกัมพูชาขอขึ้นเฉพาะตัวปราสาทไม่ครอบคลุมพื้นที่ทับซ้อน ตามที่รัฐบาลในสมัยเราได้ปกป้องไว้ แต่ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะไปคัดค้านเพื่ออะไร คงคัดค้านแก้เกี้ยว เพราะตอนสมัยที่นายกฯ เป็นผู้นำฝ่ายค้านได้อภิปรายในสภา ว่าจะทวงปราสาทคืน แต่ขณะนี้ยังไม่ดำเนินการใดๆ อีก