โฆษกส่วนตัวนายกฯ ปูดฝ่ายค้านได้คืบเอาศอก ก่อนหน้านี้ตกลงกันแล้วถ่ายทอดสด พ.ร.ก.กู้เงินทางวิทยุเท่านั้น กลับเล่นแง่เรียกร้องไม่สิ้นสุด เชื่อนายกฯ ไม่ขัดข้องจะถ่ายทอดสดหรือไม่ ไล่ส่งให้ไปคุยกันระหว่างวิปสองฝ่ายให้เรียบร้อย ข้องใจคณะกรรมการตรวจสอบเหตุรุนแรงที่มหาดไทยทำงานคืบหน้าบ้างหรือไม่
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน ผ่านทางโทรทัศน์ว่า ก่อนหน้านี้ทางวิปฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้มีการประชุมและหารือถึงเรื่องดังกล่าวและมีข้อตกลงกันว่า การพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน จะอภิปรายในวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ โดยจะถ่ายทอดสดทางวิทยุเท่านั้น ซึ่งเมื่อมีมติดังกล่าวออกมา ทางวิปฝ่ายค้านกลับออกมาเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ด้วย ซึ่งตนมองว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยกลุ่มคนเหล่านี้มีนิสัยได้คืบและจะเอาศอก
นายเทพไทกล่าวต่อว่า สำหรับนายกรัฐมนตรีอาจไม่มีขัดข้องที่จะถ่ายทอดทางโทรทัศน์ เพราะทางรัฐบาลพร้อมจะชี้แจงเรื่องต่างๆให้ประชาชนรับทราบ แต่ก็มีเงื่อนไขว่า จะต้องเป็นข้อสรุปของที่ประชุมวิปทั้ง 2 ฝ่าย เพราะฉะนั้นวิปทั้ง 2 ฝ่าย จึงควรไปประชุมหารือกันอีกครั้งและเสนอต่อประธานรัฐสภา อย่างไรก็ตามจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์หรือไม่นั้น ต้องขึ้นกับมติของที่ประชุมวิปทั้ง 2 ฝ่าย
นายเทพไทกล่าวถึงการทำงานคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองและการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 13 เม.ย.52 ว่า ที่ผ่านมาตนติดตามการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด โดยการทำงานคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองพบว่า มีความคืบหน้าพอสมควร แต่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯกลับไม่มีความคืบหน้าและไม่ทราบว่าตรวจสอบเรื่องดังกล่าวไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.อ้างว่า นายกฯไม่ได้อยู่ในรถยนต์ที่ถูกผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงทุบภายในกระทรวงมหาดไทย โดยกรณีดังกล่าวพบว่ามีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำแล้วหลายปาก อาทิ นายกฯ รองนายกฯ ผู้สื่อข่าวและคนขับรถของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ซึ่งทุกคนก็ยืนยันว่า นายกฯและรองนายกฯ อยู่ในรถยนต์ขณะเกิดเหตุ แต่คณะกรรมการฯกลับไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงได้