กกต.สั่งจับตาพื้นที่เลือกตั้งสกลฯ หวั่นเกณฑ์คนลงคะแนน สั่งเจ้าหน้าที่บักทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน กำชับ กกต.จังหวัดวางตัวเป็นกลางจัดเลือกตั้ง เตือนผู้มีตำแหน่งในรัฐบาลช่วยเหลือผู้สมัครอาจขัด กม.จนโดนเหลือง-แดงได้
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการเลือกตั้งเขต 3 จ.สกลนคร และการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 ศรีสะเกษว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทาง ผอ.กต.จว.สกลนคร ได้เข้ามารายงานสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด อาจจะต้องมีการเรียก กกต.เขต 3 ทำการซักซ้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงให้มีการจับตาการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าที่คาดว่าจะมีการขนคนไปลงคะแนน และจะมีเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง โดย กกต.ได้ให้เจ้าหน้าที่บันทึกภาพ หรือติดกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้เพื่อเป็นหลักฐานหากมีการร้องเรียนเข้ามา นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าว และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งนั้นกกต.ยืนยันว่าจะเป็นกลาง โปร่งใส และไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนถึงการที่พรรคภูมิใจไทยจัดสัมมนาในพื้นที่ใกล้เคียงขณะนี้ก็ต้องรอรายงาน ซึ่งอาจจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ ซึ่งจะสามารถให้ใบเหลืองใบแดงผู้สมัครก่อนการเลือกตั้งได้หรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูข้อเท็จจริงที่จะรายงานเข้ามา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอยู่ ส่วนคนของพรรคการเมืองจะไปช่วยผู้สมัครหาเสียง ถือว่าเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีตำแหน่งในพรรคและในรัฐบาลด้วยนั้นก็อาจจะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ซึ่งก็ต้องระวังเพราะมีกฎหมายห้ามไว้
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการเลือกตั้งเขต 3 จ.สกลนคร และการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 ศรีสะเกษว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทาง ผอ.กต.จว.สกลนคร ได้เข้ามารายงานสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด อาจจะต้องมีการเรียก กกต.เขต 3 ทำการซักซ้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงให้มีการจับตาการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าที่คาดว่าจะมีการขนคนไปลงคะแนน และจะมีเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง โดย กกต.ได้ให้เจ้าหน้าที่บันทึกภาพ หรือติดกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้เพื่อเป็นหลักฐานหากมีการร้องเรียนเข้ามา นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าว และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งนั้นกกต.ยืนยันว่าจะเป็นกลาง โปร่งใส และไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนถึงการที่พรรคภูมิใจไทยจัดสัมมนาในพื้นที่ใกล้เคียงขณะนี้ก็ต้องรอรายงาน ซึ่งอาจจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ ซึ่งจะสามารถให้ใบเหลืองใบแดงผู้สมัครก่อนการเลือกตั้งได้หรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูข้อเท็จจริงที่จะรายงานเข้ามา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอยู่ ส่วนคนของพรรคการเมืองจะไปช่วยผู้สมัครหาเสียง ถือว่าเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีตำแหน่งในพรรคและในรัฐบาลด้วยนั้นก็อาจจะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ซึ่งก็ต้องระวังเพราะมีกฎหมายห้ามไว้