“ฝ่ายค้าน” วาง 3 กรอบจองกฐินอภิปรายรัฐบาลกู้เงิน 4 แสนล้าน เน้นจับตาแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้จริง โปร่งใสหรือไม่ เหน็บเผื่อเงินไว้ใช้ “5 มาตรการ 6 เดือน” พร้อมจวก “ภูมิใจไทย” ขี้ตู่ อ้างเป็นต้นตำรับประชานิยม
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ว่า ทางพรรคได้เตรียมทีม ส.ส.ที่จะอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในระหว่างวันที่ 15-16 มิ.ย. โดยกำหนดกรอบไว้ 3 ประเด็น คือ 1.แนวทางการกู้เงินเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลักหรือไม่ 2.มีการบริหารจัดการการใช้เงินอย่างไร และ 3.มีความโปร่งใสในการใช้เงินที่จะไปดำเนินโครงการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งทีมอภิปรายจะตั้งคำถามว่า การบริหารเงินกู้ของรัฐบาลมีความสอดคล้องกับ 3 ประเด็นดังกล่าวหรือไม่ และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นได้หรือไม่ โดยเฉพาะจะสามารถคืนเงินกู้ด้วยวิธีไหนอย่างไร เพราะเท่าที่พรรคเพื่อไทยประเมินการใช้จ่ายในงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกนั้น ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมว่าสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้
นายปานปรีย์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรจะจัดสรรเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เอาไว้เผื่อขยายเวลา 5 มาตรการ 6 เดือนต่อไป ที่จะสิ้นสุดเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย เพราะเป็นประโยชน์และช่วยลดภาระให้กับประชาชนในทันที ถือเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นในระหว่างที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวได้ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยยกเลิกการสัมมนาทางเศรษฐกิจที่ จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร ในระหว่างวันที่ 12-13 มิ.ย.นั้น เนื่องจากเกรงจะถูกมองว่าไปหาเสียง แต่ทีมเศรษฐกิจเองก็มีโปรแกรมที่จะเดินสายทั่วประเทศอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเป็นภาคอีสานเท่านั้น โดยอาจจะไปเริ่มในจังหวัดอื่นและเดินสายทั่วประเทศ เพื่อเก็บข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก่อนที่จะนำมาทำเป็นนโยบายของพรรค
นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า พรรคอยู่ระหว่างการกำหนดกรอบการจัดทำนโยบายเพื่อใช้หาเสียงในการเลือกตั้งทั่วไป โดยเบื้องต้นจะยังคงโครงการประชานิยมของพรรคไทยรักไทยเดิม ต่อยอดในบางโครงการ รวมถึงคิดนโยบายใหม่ เช่น นโยบายสร้างงานสร้างรายได้ และการแก้ไขปัญหาหนี้สิน สำหรับกรณีที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยประกาศนโยบายประชานิยม รวมทั้งระบุว่า เป็นนโยบายที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ปฎิบัติเมื่อครั้งที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายปานปีย์ กล่าวว่า ใครจะลอกนโยบายก็ยินดีไม่มีปัญหา แต่ขอให้ทำออกมาให้ดี แต่จะอ้างว่าเป็นผลงานของตัวเองนั้นคงไม่ได้ เพราะเมื่ออยู่กับสถาบันไหนก็ควรเคารพสถาบันนั้น ไม่ใช่มาอ้างว่าตัวเองเป็นคนคิดเป็นทำ