“ปริญญา” อภิปรายในงานครบรอบ 11 ปี กกต.ชี้ 77 ปี ประชาธิปไตยไทยล้มเหลวที่สุด ทั้งนำไปสู่ความแตกแยกจนเกือบเกิดสงครามกลางเมือง ระบุ มีแต่คนอ้างสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่พูดถึงความรับผิดชอบ แนะ ควรเพิ่มวิชาพลเมืองปลูกฝังให้เยาวชนเข้าใจ
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการอภิปรายเนื่องในโอกาสครบรอบ 11 ปี ของ กกต.ว่า ที่ผ่านมา ประชาธิปไตยของไทยถือว่าล้มเหลว เพราะตลอด 77 ปีที่ผ่านมา เรามีการปฏิวัติรัฐประหารที่ทั้งฉีก และไม่ฉีกรัฐธรรมนูญถึง 12 ครั้ง และล่าสุด เราก็มีความขัดแย้งจนเกือบจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง และที่น่าเป็นห่วง คือ ความขัดแย้งครั้งนี้ยังไม่จบลง และยังไม่รู้ว่ายกต่อไปจะเป็นอย่างไร และการเข่นฆ่ากันเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก จนเริ่มมีผู้ตั้งคำถามว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยนี้ไม่เหมาะกับประเทศไทยใช่หรือไม่
นายปริญญา กล่าวต่อว่า ปัญหาของระบอบประชาธิปไตยไทย คือ เรามีวงจร คือ เลือกตั้ง รัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ และเลือกตั้งใหม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นทหารที่ออกมารัฐประหาร เพราะหากไม่ออกมากระทำ และปล่อยให้แก้ปัญหาไปตามวิถีทางระบบก็จะเดินต่อไปได้ หรือนักการเมืองที่หากไม่คอร์รัปชัน ทหารก็ไม่มีข้ออ้างในการปฏิวัติ และที่สำคัญคือ ประชาชนที่หากไม่ขายเสียงก็จะไม่มีคนซื้อ และต้องไม่สนับสนุนการปฏิวัติ ระบอบประชาธิปไตยนั้น ไม่ใช่เครื่องจักรที่เมื่อวางระบบแล้วใช้งานได้ แต่ต้องอาศัยคนที่มีจิตสำนึกมาสร้างประชาธิปไตยด้วย
นายปริญญา กล่าวต่อว่า ปัญหาของระบอบประชาธิปไตย คือ ทำให้เกิดชนชั้นปกครองใหม่ขึ้นมา หากคนไม่พร้อมการเลือกตั้ง ก็จะกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้ชนชั้นปกครองเท่านั้น เพราะแม้แต่ฮิตเลอร์ก็มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ประชาธิปไตยยังนำความแตกแยกมาสู่คนในสังคม เรียกได้ว่า ไปถึงไหนแตกแยกถึงที่นั่น และประชาธิปไตยยังนำมาซึ่งความเสื่อมของสังคม เนื่องมาจากการอ้างเสรีภาพโดยไม่พูดถึงเรื่องความรับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยเกิดปัญหาทั้งสามแบบ อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งสามจะเกิดขึ้นหากคนที่อยู่ในประเทศนั้นๆ มีคุณภาพซึ่งเราควรจะมีวิชาพลเมือง เพื่อเตรียมเยาวชนเช่นเดียวกับประเทศต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จเรื่องประชาธิปไตยและใช้หลักนิติรัฐในการควบคุม