“ประธานวุฒิฯ” หนุนแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ หากแก้ปัญหาได้ก็ต้องแก้ ชูมือขานรับแก้มาตรา 237 ไม่ให้ยุบพรรค แค่เอาผิดกรรมการบริหารหากทุจริต พร้อมเตือนรัฐบาลเดินหน้าสานต่อโครงการเอ็นจีวี 4 พันคันต้องรับผิดชอบ เตือนถูกถอดถอน
วันนี้ (28 พ.ค.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสมานฉันท์เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ระยะ ว่า ถือเป็นทางออกที่ดีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะการจะแก้ครั้งเดียวอาจจะทำได้ยาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพิจารณาสิ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนก่อน มาตราไหนที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารบ้านเมือง ถ้าแก้ได้ก็แก้ไปก่อน ถือว่าเรื่องนี้เข้าใจได้และเป็นข้อสรุปที่ดี เพราะสิ่งที่อนุกรรมการพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอ 3-4 ประเด็นก็คิดว่าน่าจะทำได้ โดยเฉพาะมาตรา 190 ก็น่าแก้ได้ ถ้าแก้เพื่อให้ไม่เป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาล
นายประสพสุข ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 นั้น ตนเห็นว่าแล้วแต่มุมมอง แต่ต้องดูรายละเอียดและเนื้อหาของมาตรามากกว่า อย่าไปบอกว่าแก้ได้แก้ไม่ได้ ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นความขัดแย้งหรือไม่นั้นต้องดูข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนว่าจะแก้อย่างไร แล้วค่อยจะคิดต่อว่าจะทำอย่างไรต่อ ทั้งนี้เห็นว่าถ้าแก้โดยการปรับถ้อยคำโดยให้กรรมการบริหารพรรครับผิดชอบโดยไม่ถึงยุบพรรค ส่วนตัวก็เห็นด้วยและคิดว่าน่าจะทางออกที่ดี
นายประสพสุข ยังกล่าวถึงกรณีที่วุฒิสภาหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่ครม.จะพิจารณาให้เช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ว่า เรื่องนี้แล้วแต่มุมมองของ ส.ว.ที่ทราบว่าหลายคนก็ไม่สบายใจกับโครงการดังกล่าวของรัฐบาล แต่ก็ยังมีส.ว.บางส่วนเห็นด้วย ทั้งนี้ต้องดูเหตุผลและความจำเป็นของคนที่ออกมาคัดค้าน แต่ส่วนตัวไม่ขอออกความเห็น เพราะเป็นการกระทบต่อรัฐบาล ส่วนกรณีที่ ส.ว.บางคนบางคน ระบุว่า หากรัฐบาลยังเดินหน้าต่อท่ามกลางเสียงคัดค้านอาจจะถูกยื่นถอดถอนได้นั้นเรื่องนี้ก็แล้วมุมมอง ซึ่งก็มีข้อกฎหมายอยู่ ถ้า ครม.ตัดสินใจอะไรก็ต้องรับผิดชอบเอง แต่กระบวนการเหล่านั้นยังมาไม่ถึง อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลจะพิจารณาโครงการใดจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน ส่วนข้อโต้แย้งก็ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ