บรรยากาศงาน “193 วัน รำลึก 1 ปี การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 พ.ค. พี่น้องพันธมิตรฯจับจองที่นั่งเต็มอัฒจันทร์ เพื่อร่วมกรอกแบบสอบถาม 23 คำถาม ทำประชาพิจารณ์ในประเด็นต่างๆ รวมไปถึงการวางบทบาทของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ว่า จะให้แกนนำแต่ละท่านทำงานตรงส่วนใด พร้อมกับชมไฮไลต์ของงานขบวนพาเหรดขององค์กรแนวร่วมในภาคส่วนต่างๆ มากมายร่วมเดินขบวน เช่น ขบวนพาเหรดของเอเอสทีวี ขบวนพาเหรดของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ขบวนพาเหรดของกองทัพไทย ขบวนพาเหรดของตัวแทนส่วนภูมิภาค ที่นำจุดเด่นในภูมิภาคของตนมาจัดเป็นริ้วขบวนได้อย่างตื่นตาตื่นใจ อาทิ ริ้วขบวนเชิดมังกรขนาดใหญ่ที่สวยงาม และริ้วขบวนการแสดงโขน ที่ก็มาสร้างความงามตามแบบวัฒนธรรมไทย ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ประชาชนต่างทะยอยเข้ามาบริวเณสนามกีฬา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานกันอย่างล้นหลาม เพื่อเข้าจับจองที่นั่ง กระทั่งเวลา 14.45 น. ที่นั่งอัฒจรรย์ ด้านมีหลังคา ซึ่งตรงข้ามกับเวที ก็มีประชาชนชาวพันธมิตร เข้าจับจองจนเต็มพื้นที่ ผู้ที่มาทีหลังต้องไปนั่งที่อัฒจรรย์ ด้านไม่มีหลังคา
ขณะที่พิธีกรบนเวทีก็ประกาศให้ผู้ที่มาร่วมงาน เตรียมน้ำ อาหาร เข้ามาให้พร้อม และให้ระมัดระวังทรัพย์สิน ข้าวของที่นำติดตัวมา
นอกจากนี้ ประชาชนที่มาถึงก่อนหน้านี้ ต่างร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ที่บริเวณ หน้าสนามกีฬา โดยเฉพาะบริเวณรูปปั้นมังกรคู่ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่ด้านนอกโดยรอบสนามกีฬา ก็มีการซักซ้อม และตั้งแถวขบวนพาเหรด ป้ายผ้า จากกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาจากจังหวัดต่างๆ ที่จะเข้าร่วมงาน
ส่วนที่บริเวณทางเข้าสนามกีฬา มีพันธมิตรฯจำนวนมากต่างมุงดู กรอบรูปขนาดใหญ่ ที่ใส่ชุดเปื้อนเลือด ซึ่งนายสนธิ ลิ้มทองกุล สวมใส่ ในวันที่ถูกกลุ่มมือปืนยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม 17เม.ย.ที่ผ่านมา และมีการวิพากษ์วิจารณ์ กันถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
เวลา 15.00น. นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์และคณะได่ขึ้นเวทีแสดงกวีดนตรี โดยนายเนาวรัตน์กล่าวในช่วงหนึ่งว่า ถ้าหากเราสังเกตให้ดี วันที่ 25 เดือน 5 ปี 52 นั้น เลข 5 กับเลข 2 ของวันที่ และพ.ศ. นั้นรวมกันได้ 7 ก็คือ 77 เท่ากับ 77 ปี ของระบอบประชาธิปไตยพอดี
15.35น. มีการปล่อยขบวนพาเหรดของตัวแทนพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ เข้าสู่สนาม โดยเริ่มจากขบวนของ เอเอสทีวี จากนั้นเป็นขบวนของภาคต่างๆ อาทิ พันธมิตรภาคตะวันตก ที่สวมใส่ชุดนักรบไทยโบราณ ในชุดสีเหลือง -น้ำตาล สะพายดาบ ส่วนพันธมิตรฯภาคตะวันออก นำขบวนทิฟฟานี่ มาร่วมสร้างความครึกครื้น ส่วนขบวนสาธิตมัฆวานฯ เป็นขบวนล้อเลียนการเมือง โดยการแต่งเลียน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และจำลองรถยนต์ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกยิง และที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากคือ ขบวนของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย โดยมีการจำลองถังก๊าซปตท. และหัวจ่ายปั๊มน้ำมัน เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และทวงคืนปตท. และปิดท้ายด้วยขบวนเครือข่ายศิลปินฯ นำโดย ศรันยู วงศ์กระจ่าง พร้อมด้วยเหล่าศิลปินที่เคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ในการต่อสู้กันมา
จากนั้น เวลา 18.10 น. พันธมิตรฯ ทั้งหมดร่วมร้องเพลง 193 วัน โดยมีการฉายภาพผ่านจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมเนื้อเพลงกำกับ และได้แจกเนื้อเพลงให้กับผู้ร่วมชุมนุม เพื่อร้องเพลงและรำลึกถึง 193 วันของการต่อสู้ไปพร้อมกันด้วย
ภายหลังร้องจบ นายศรัณยู ซึ่งเป็นผู้ประพันธ์ เนื้อร้อง และทำนอง กล่าวว่า เพลงนี้ เขียนขึ้นจากลมหายใจ และวิญญาณของพวกเราทุกคน ที่ได้ร่วมกันยืนหยัดต่อสู้กับทรราช อย่างทรหดอดทนมาตลอดเวลา 193 วัน
เวลา18.30น. นายสำราญ รอดเพชร และนายอมร อมรรัตนานนท์ เป็นพิธีกร โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า เราจะก้าวเดินสู่วิถีทางแห่งการสร้างชาติ สร้างประเทศใหม่ ด้วยการนำประชาธิปไตยสู่การเมืองใหม่ให้ได้
