“อลงกรณ์” ครวญเร่งทำงานเล่นบทเซลส์แมนขายของอยู่ต่างประเทศมากเกิน ทำความสัมพันธ์กับเพื่อน ส.ส.ลดลง รับต้องรีบปรับตัวฟื้นความสัมพันธ์ใกล้ชิด ปัดไม่มีกรณี 40 ส.ส.บีบปรับ ครม.โวลั่นอาวุโสสูงสุด แถมติดอันดับท็อปเทนรัฐมนตรีในใจนักธุรกิจ
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.45 น.นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล ระบุประชาชนส่วนใหญ่อยากให้มีการปรับ ครม.ในกระทรวงพาณิชย์ เป็นอันดับหนึ่งและมีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เองไม่พอใจการทำงานของนายอลงกรณ์ ด้วย ว่า ไม่เห็นมีเรื่องที่สมาชิกพรรคไม่พอใจผลงานตน เป็นเรื่องการปล่อยข่าว ในการสัมมนาที่เกาะสมุยก็ไม่มี เรื่องกลุ่ม 40 ส.ส.สอบถามกันดูแล้วก็บอกว่าไม่เป็นความจริง ไม่รู้ใครปล่อยข่าวออกมา โดยหลักการทำงานในพรรคถ้ามีปัญหาอะไรกันก็จะคุยกันในพรรค อย่างไรก็ตาม ในการทำงานนั้น ทั้งตน และ รมว.พาณิชย์ ตั้งใจทำงานกันเต็มที่ โดยเฉพาะตนทำงานเป็นเซลส์แมน เดินทางไปต่างประเทศมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อขายของ ทำงานมา 4 เดือน ตนไปเมืองนอก 2 เดือนครึ่ง ขาดการประชุม ครม.มากที่สุด ซึ่งนายกฯก็เข้าใจ ดังนั้น จึงอาจเกิดความห่างเหินกับสมาชิกไปบ้าง ดังนั้น เมื่อมีกระแสการเรียกร้องเรื่องความใกล้ชิดตนจะปรับปรุง เพื่อเอาใจใส่สนับสนุนการทำงานของส.ส.มากขึ้น ตนจะลงไปดูโดยเฉพาะกับ ส.ส.ภาคกลาง ที่ตนเคยดูแลอยู่ว่ามีปัญหาอะไรไม่ว่าเรื่องการดูแลหรือความใกล้ชิด
เมื่อถามว่า มีการมองว่า การปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่สีลม ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมทำให้เสียฐานคะแนนเสียงของพรรคจนลูกพรรคไม่พอใจ นายอลงกรณ์ ตอบว่า คนทำงานย่อมมีข้อวิจารณ์ได้เสมอ เพียงแต่ประเด็นนี้คงไม่ใช่ประเด็นหลัก การปล่อยข่าว 40 ส.ส.ที่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค คงเป็นการพูดเพื่อหยั่งท่าที่กันมากกว่า เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าตามระบบของพรรคจะใช้วิธีต่อรอง หรือการสร้างกลุ่มสร้างก๊วนไม่ได้ และตนเชื่อว่า ในพรรคมีลักษณะนี้ เพียงแต่เป็นเรื่องตัวบุคคล และยืนยันว่า ไม่มีเรื่องกลุ่ม 40 ส.ส.ได้สอบถามดูแล้วทุกคนก็ปฏิเสธ และเชื่อว่า ไม่ใช่เรื่องที่มีคนในพรรคมาเลื่อยขาเก้าอี้ตน โดยเฉพาะ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรค เพราะเขาไม่ได้มีเรื่องกับตน ตอนเลือกรัฐมนตรีก็โหวตกันระหว่าง นายเฉลิมชัย กับ นายธีระ สลักเพชร ส่วนตนอาวุโสสูงสุด 5 สมัย นอกนั้น 3 สมัยกัน ไม่มีใครแข่งอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.ยังไม่ถึงเวลา และเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค ส.ส.ของพรรคต้องช่วยสนับสนุนการทำงานของรับบาลนายกฯ ไม่ใช่มาทำให้เกิดปัญหาและทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อเสถียรภาพของพรรคแกนนำ
เมื่อถามว่า ประชาชนไม่พอใจผลงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลจึงต้องการให้ปรับทีมครม.เศรษฐกิจ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา รัฐบาลเข้ามาในยามที่ประเทศวิกฤตแล้ว กระทรวงพาณิชย์ต้องดูแลทั้งการส่องออก การครองชีพ และสินค้าเกษตร เมื่อเข้ามาตัวเลขส่งออกก็ติดลบมา 3 เดือนแล้ว แน่นอนจะให้มีผลงานเป็นบวกคงเป็นเรื่องยาก และยากที่จะได้รับความนิยม ก็ได้ทุ่มเทการทำงานแล้ว และเรารับฟังความเห็นมาปรับปรุงการทำงาน ทั้งนี้ ทางหนึ่งควรต้องขอเพิ่มงบส่งเสริมการส่งออกในกรอบการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง เพื่อสร้างงานแก้ปัญหาการตกงานทันที เพราะขณะนี้เริ่มมีสัญญาณส่อว่าขณะนี้ตลาดหลักของเราเริ่มมีการฟื้นตัว เช่น จัน สหรัฐอเมริกา เป็นจังหวะที่ดีหากจะได้อัดฉีดงบส่งเสริมการส่งออก เมื่อถามหวั่นหรือไม่ว่า จะถูกปรับ ครม.ในช่วง 6 เดือนตามที่นายกฯบอกไว้ นายอลงกรณ์ ตอบว่า จะได้ทำงานต่อหรือไม่อยู่ที่ผลงานของเรา แต่ยังเชื่อมั่น เพราะในการจัดโพลของนักธุรกิจตนก็อยู่ในอันดับท๊อปเทนของรัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่น่าพอใจที่สุด แต่การพิจารณาทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง