ปชป.หนุน พธม.ตั้งพรรค ชี้เรื่องดีทำ ปชต.เข้มแข็ง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ชี้เรื่องดีกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมือง เชื่อสร้างทางเลือกให้ประชาชน ทำประชาธิปไตยเข้มแข็งขึ้น มั่นใจอุดมการณ์ต่อต้านความไม่ถูกต้องเป็นกำลังช่วย ย้ำไม่เชื่อพรรคการเมืองเดียวไม่ช่วยเปลี่ยนโครงสร้างประชาธิปไตยได้ ลั่นไม่กระทบฐานเสียงพรรค โอ่งานสัมมนาพรรคที่สมุยทำคนในพรรคเหนียวแน่น ไม่มีปัญหาอีก

วันนี้ (25 พ.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะตั้งพรรคการเมืองว่า เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ตัดสินใจตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาแล้วก็ถือว่าทำให้ประชาชนมีทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง ถือว่าเป็นการสร้างเสริมความเข้มแข็งของการปกครองระบอบประชาธิปไตย และมั่นใจว่าฐานทางอุดมการณ์ที่ต่อต้านความไม่ถูกต้องนั้นจะเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านกลุ่มที่ไม่หวังดีสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศชาติ ซึ่งในส่วนพรรคประชาธิปัตย์เราให้เกียรติพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคใหม่ มีสมาชิกมากหรือน้อย เพราะในระบบประชาธิปไตยพรรคการเมืองมีความสำคัญมาก และเราไม่เชื่อในเรื่องของพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ในอดีตเคยมีความพยายามที่จะเปลี่ยนโครงสร้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่เราเชื่อในเรื่องของการแข่งขัน และทางเลือกที่สร้างสรรค์ เชื่อในเรื่องการสร้างความเข้มแข็งในระบอบประชาธิปไตยที่มีพรรคการเมืองหลายพรรค

เมื่อถามว่าจะเป็นคู่แข่งพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะมีฐานเสียงเดียวกัน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในวันนี้เรื่องสำคัญไม่ใช่เรื่องการแข่งขันทางการเมือง แต่จุดสำคัญวันนี้คือ การแก้ไขวิกฤตของประเทศ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะเศรษฐกิจ แต่มีปัญหาการเมืองที่เป็นต้นเหตุด้วย ดังนั้นการหาทางออกให้กับวิกฤตถือเป็นความรับผิดชอบของทุกพรรคการเมืองที่ประชาชนคาดหวังต่อระบบการเมืองในขณะนี้ ดังนั้น ในวันนี้สิ่งที่เป็นโจทย์ให้คือพรรคการเมืองจะมุ่งหาทางออกให้บ้านเมืองได้อย่างไร ซึ่งมั่นใจว่าพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาจะร่วมหาทางออกให้กับบ้านเมืองได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุสาเหตุที่ตั้งพรรคเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทำอะไรให้ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคไม่เคยมองว่าพรรคการเมืองที่มีมากขึ้นจะเป็นคู่แข่งหรือไม่เป็น แต่เราเคารพการทำหน้าที่ของทุกพรรคการเมือง และน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด ยืนยันว่าตลอดเวลาที่ตั้งพรรคประชาธิปัตย์มาได้ยึดมั่นในหลักของประโยชน์ส่วนรวม ความถูกต้องชอบธรรม และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาโดยตลอด และหากการทำหน้าที่ของพรรคที่ผ่านมาทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ประชาชนไม่ได้มองว่าพรรคยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีโอกาสอยู่มาถึง 67 ปี

ต่อข้อถามถึงบรรยากาศในพรรคหลังการสัมมนาที่เกาะสมุย นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า บรรยากาศที่ดีอยู่แล้วก็ดียิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่าโอกาสที่ ส.ส.จะได้พบรัฐมนตรี นายกฯ และรองนายกฯ ในช่วงสุดสัปดาห์เป็นเวลายากมาก เพราะที่ผ่านมาเป็นภาวะวิกฤตตลอดทั้งเรื่องความขัดแย้งและรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและประชาชนในเบื้องต้น ดังนั้นโอกาสที่จะมาพบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยจะทำได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้เชื่อว่าทำให้รัฐบาลแก้ปัญหาของประชาชนได้ดีขึ้น

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ ส.ส.หน้าใหม่ 40 คนที่ออกมาเคลื่อนไหวจะยุติความเคลื่อนไหวหรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ส.ไม่มี และในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยมีการใช้วิธีกดดันกลุ่ม ส.ส. และขณะนี้ก็ไม่มีใครมายืนยันว่าเป็นคนที่อยู่ใน 40 ส.ส. เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีกลุ่มเดียวคือ ส.ส. 173 คน ที่จะร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป