สาวใหญ่ใจกล้าบุกทำเนียบ โวยกลางวงแถลงข่าวนายกฯ ถามทำอะไรเพื่อประชาชนบ้าง เอาแต่ปรับ ครม.-แก้รัฐธรรมนูญเอาใจนักการเมือง จนเกือบวุ่น “ปณิธาน” ต้องดึงออกนอกวงบอกพร้อมรับฟังปัญหา เจ้าตัวโพล่งเดือดร้อนนโยบายเรียนฟรีรัฐบาล แถมโดนบีบทุกทาง ไม่มีรายได้แน่นอน ซัดสารพัดม็อบทำเศรษฐกิจแย่
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.20 น.บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังแถลงข่าวถึงประเด็นการเมืองกับสื่อมวลชนอยู่ ได้มีผู้หญิงสวมชุดสีเลือดหมู อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งแลกบัตรจากประตู 4 เข้ามา ได้ยกมือขึ้นถามนายอภิสิทธิ์ ว่า ขอถามอะไรหน่อย ครม.และนายกฯได้ทำอะไรให้ประชาชนบ้าง นอกจากการแก้รัฐธรรมนูญ และการปรับ ครม.ซึ่งนายกฯ ตอบว่า “ทำครับๆ” แต่หญิงคนดังกล่าวยังคงพยายามตะโกนถามคำถามนายอภิสิทธิ์ ว่า ได้ทำอะไรเพื่อประชาชนบ้าง นายกฯยังคงตอบว่า ยืนยันว่า “ทำครับ เราพยายามรับเรื่องราวเดือดร้อนของประชาชนไว้ก่อน แต่ท่านยังไม่ได้บอกเลยว่าเดือดร้อนเรื่องอะไร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้นตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบ และตำรวจนอกเครื่องแบบได้เข้าประกบตัวหญิงคนดังกล่าว แต่ผู้หญิงคนเดิมเถียงว่าไม่จริง และเริ่มพูดจาขึ้นเสียง จนมีท่าทีว่าจะเกิดความวุ่นวาย จนกระทั่ง นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาบอกว่า ถ้าจะมาร้องเรียนอะไรให้มาพูดกับตน หลังจากนั้น นายปณิธาน จึงพาตัวหญิงวัยกลางคนเข้าไปสอบถามพูดคุย และสงบสติอารมณ์ที่ตึกนารีสโมสร
จากนั้นเมื่อเข้าไปที่ตึกนารีสโมสร ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้หญิงคนนั้นจนทราบชื่อ คือ นางอุษณกร คอกเชอวาล อายุ 43 ปี บ้านอยู่ย่านเทเวศร์ ซึ่งเมื่อก่อนเคยมีอาชีพขายปากกา หนังสือ อุปกรณ์การเรียน อยู่แถวเทเวศร์ แต่ปัจจุบันไม่ได้ขายแล้ว มารับจ้างพิมพ์งานอยู่ ทั้งนี้ ระบุว่า ที่ขายไม่ได้ เพราะปัญหาเศรษฐกิจจากบรรดาม็อบเสื้อแดง เสื้อเหลือง ซึ่งนางอุษณกร กล่าวว่า ตนไม่ชอบทั้งเสื้อแดง และเสื้อเหลือง ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยย่ำแย่แบบนี้
นางอุษณกร กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้มายื่นหนังสือ หรือจะมาเรียกร้องอะไร ตนเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว มาคนเดียว ไม่มีอาวุธหรืออะไรมา แค่อยากจะมาถามว่า ทาง ครม.และรัฐมนตรีเคยทำอะไรเพื่อประชาชนบ้าง และเรื่องเรียนฟรี 15 ปี นั้น อยากให้กลับมาดูว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ตามที่เคยพูดนักพูดหนาว่า จะทำให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ แต่ก็ยังคงเดือดร้อนไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนรัฐบาลก็เอาแต่แถลงข่าวปรับ ครม.แก้รัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ เพื่อจุดยืนของตัวเองทั้งนั้น
ส่วนเรื่องที่เดือดร้อนจริงๆ นั้น นางอุษณกร ได้กล่าวพร้อมทั้งน้ำตา ว่า เป็นเรื่องลูกสาวของซึ่งกำลังเรียนอยู่กำลังจะขึ้นชั้นอนุบาล 3 เดิมเรียนอยู่ที่โรงเรียนภายใต้สังกัดของ กทม.แต่การเรียนที่นั่นไม่มีคุณภาพ เปิดทีวีให้ลูกสาวดูแล้วบ่ายสองก็รับกลับบ้าน ตนจึงย้ายโรงเรียนไปสังกัดสาธิต แต่ค่าเทอมก็แพงมาก ต้องกู้เงินเพื่อหาเงินมาส่งลูกเรียน แต่จะกู้ธนาคารก็ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องมีหลักฐานและต้องเป็นข้าราชการซี 5 รับประกัน จึงจะกู้ได้ ตนหวังอย่างเดียวว่าอยากให้ลูกสาวของตนมีคุณภาพ อยากให้มีการศึกษา แต่โรงเรียนรัฐบาลไม่มีคุณภาพที่ดีพอ โรงเรียนเอกชนค่าเทอมก็แพง ทำให้ตนเหมือนโดนบีบ
“จริงๆ แล้วได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์มาแล้ว แต่ทางนั้นบอกว่าต้องรอดำเนินการถึง 60 วัน กว่าจะเห็นผล ตอนนี้คำร้องของประชาชนที่ร้องไปก็กลายเป็นถุงกล้วยแขก ตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ สมัคร สมชาย ไม่ว่ากี่รัฐบาลก็เป็นอย่างนี้ เราเป็นคนจนไม่มีญาติที่ไหนสามีก็เสีย ถ้าไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้ไม่มีใคร เห็นเรา แต่ถ้ามีเงินญาติก็จะเยอะ” นางอุษณกร กล่าว
ด้าน นายปณิธาน ได้พูดคุยรับฟังและพยายามอธิบายให้ นางอุษณกร ได้เข้าใจถึงโครงการเรียนฟรี 15 ปี ที่จำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการ และเรื่องของนักการเมืองที่ นางอุษณกรที่ได้กล่าวไว้ และให้ นางอุษณกร ได้เขียนชื่อที่อยู่ไว้เพื่อเป็นหลักฐานแล้ว ก่อนที่ นายปณิธาน จะกลับออกไปจากตึกนารีฯ ซึ่ง นางอุษณกร ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวอีกระยะหนึ่งก่อนจะกลับออกไปโดยมีตำรวจเดินตามไปด้วย