“เทพเทือก” งัดวิดีโอโต้กลับ “ไอ้ตู่” โชว์ภาพแดงถ่อยล้อมมหาดไทย-รุมทำร้าย จนท.

“ไอ้ตู่” ตอแหลกลางสภา อ้างมีเอกสิทธิ์ขอคุ้มครอง ซัดรัฐบาลใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชนเสียชีวิต ยังปัดสวะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกเรื่องราว ทั้งเหตุปล้นรถแก๊ส ยิงเอ็ม 79 ใส่ศาลรัฐธรรมนูญ เหตุปะทะซอยเพชรบุรี 7 โยนมีคนจัดฉากใส่ร้ายเสื้อแดง จวก “อลงกรณ์” ทำตัวเป็นทูตพิเศษบินไปจับตัว “ทักษิณ” ถึงดูไบ โอ่ นายมีพาสปอร์ตหลายใบ ไม่จนตรอก ขณะที่ “สุเทพ” งัดวิดีโอภาพเหตุคนเสื้อแดงทำร้ายทหารแบบช็อตต่อช็อต โต้เสื้อแดงป่วนจริง ชี้ ภาพชัดสร้างสถานการณ์ไม่ได้

การประชุมร่วมกันของสองสภา วันนี้ (23 เม.ย.) ในช่วงเวลา 17.10-18.15 น.เป็นการอภิปราย ซึ่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนอภิปราย หนึ่งในแกนนำ นปช.ที่ถูกหมายจับจากเหตุการณ์ก่อจลาจลร่วมกับคนเสื้อแดง โดย นายจตุพร ได้ผูกเนกไทสีแดงเข้าร่วมประชุม

นายจตุพร อภิปรายว่า มีคนกระแหนะกระแหนตนเรื่องเอกสิทธิ์ ทั้งที่ตนไม่มีหน้าที่จะขอเอกสิทธิ์คุ้มครองจากรัฐสภา เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 131 ได้ระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วเป็นหน้าที่ของศาลที่จะทำเรื่องประสานมายังประธานสภาผู้แทนราษฎรเอง ซึ่งทั้ง นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ก็มีเอกสิทธิ์คุ้มครองตรงนี้เหมือนกัน ส่วนข่าวการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมนั้น อยากให้พิจารณากว่าจะรู้ว่ามีคนตายจากเหตุการณ์ พ.ค.35 จริงก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์กันหลายปีมีคนตาย 40 คน สูญหาย 40 คน ผ่านไปแล้ว 17 ปี ก็ยังคงมีญาติพี่น้องแบกโรงศพถามหาผู้สูญหายอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ หลังจากเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 ก.ย.49 ยิ่งทำให้พวกตนมั่นใจว่ามีการดำเนินการ 2 มาตรฐาน ดำเนินคดีกับพวกตนเสมือนพลเมืองชั้น 2 ซึ่งพบว่า มีคดีที่คนเสื้อเหลืองถูกดำเนินคดีจำนวน 240 คดี คนเสื้อแดงถูกดำเนินคดี103 คดี ในขณะที่คนเสื้อสีน้ำเงินหนังเหนียวไม่มีสักคดี ทั้งที่ไอ้นี่เป็นตัวการของปัญหาทั้งหมด การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่พัทยา จะไม่ทำไม่ได้ เพราะมี 2 ชีวิตถูกยิงโดยไม่มีใครรับผิดชอบ

ส่วนการที่ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ขัดขืนระหว่างอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เป็นเพราะเกิดอาการเครียด หลังจากไม่ทราบว่าจะถูกนำตัวไปที่ใดกันแน่ ไม่รู้ว่าจะถูกนำไปฆ่าตายที่ไหน เพราะขนาดเฮลิคอปเตอร์ขึ้นแล้วคนขับยังไม่รู้จุดหมายเลยว่าจะให้นำตัวไปที่ไหน

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ต้องการจะโยงรถแก๊สว่าเป็นรถของบริษัท สยามแก๊ส และพยายามโยงว่าเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร นั้น จากตรวจสอบพบว่า เป็นรถที่มีเจ้าของเดียวกัน แต่ต่างบริษัท คือ คันแรก หมายเลขทะเบียน 819629 นนทบุรี เป็นของบริษัท ธนวินบริการ และอีกคัน หมายเลขทะเบียน 966747 กทม. เป็นของบริษัท ตึกช้างบริการ ซึ่งถูกยึดหลังจากเติมแก๊สเหมือนกัน น่าสนใจตรงที่คันที่นำไปจอดหน้าโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ จอดอยู่เฉยๆ โดยไม่มีคนเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว ตรงนี้ถือเป็นกระบวนการจัดฉากใส่ร้ายคนเสื้อแดง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามจะนำไปจอดที่หน้า รพ.สงฆ์ แต่ไม่ได้รับความสนใจเลยขนกลับไปจอดที่คิง เพาเวอร์

ส่วนเหตุการณ์ยิงมัสยิดตนได้ตั้งรางวัลนำจับไปแล้ว 5 แสนบาท เพื่อหาต้นตอให้ได้ว่าใครเป็นคนยิงใส่มัสยิด เพราะไม่มีเหตุผลที่คนเสื้อแดงจะไปยิงมัสยิด เนื่องจากขณะนั้นเราก็ต้องการพรรคพวก และคนอย่างพวกตนไม่เลวพอที่จะมีปัญหากับศาสนิก โดยคืนวันที่ 13 เม.ย.ตนได้รับรายงานว่า การ์ดของ นปช.ถูกยิงตายไปแล้ว 3 คน และถูกย้ายศพหนี ซึ่งผู้เสียชีวิตคนหนึ่งเป็นใบ้มาจาก จ.เลย โชคดีทีพี่ชายผู้เสียชีวิต ระบุว่า ผู้ตายอยู่ห่างจากที่ชุมนุม 300 เมตร และกระสุนก็ถูกยิงมาจากด้านข้าง ระหว่างนี้ศพอยู่ระหว่างการชันสูตร เหตุที่ไม่มีญาติผู้บาดเจ็บและสูญหายมาแจ้งความกับรัฐบาล เพราะเขามองว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นธรรม จึงขอเรียกร้องให้รัฐสภาตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาสอบสวน

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า กรณียิงศาลรัฐธรรมนูญด้วย เอ็ม79 นายสุเทพ ก็รีบออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โยนว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดง และเมื่อมีการลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ก็ยังมีหน้ามาบอกอีกว่าคนยิงเป็นคนเดียวกับที่ยิงใส่ศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนี้ตนก็ตั้งรางวัลนำจับเช่นกันรางวัลละ 5 แสนบาท กรณียิงศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เกี่ยวกับนายสนธิ ต้องยอมรับว่า วันนี้เราเจอคนปลอมเป็นเสื้อแดงเต็มๆ นั่งรถอยู่ดีๆ กับ นพ.เหวง โตจิราการ สักพักก็กลายเป็นนายทหารยศพันโทคนหนึ่ง เมื่อไปดูภาพดีๆ จะพบว่า มีตำรวจ ทหาร ปลอมตัวเต็มไปหมดเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง เหตุที่สลายการชุมนุมง่ายได้ เพราะมีการข่าวแจ้งว่าคืนวันที่ 13 เม.ย.เวลาตี 3 ครึ่ง จะมีการสลายการชุมนุมจึงไม่ต้องการให้คนบาดเจ็บล้มตาย

นายจตุพร ยังกล่าวด้วยว่า ในประเทศไทยนอกจากตั้งข้อหาเฮงซวยแล้ว ยังเอา รมช.พาณิชย์ไปจับผู้ต้องหาไปตามล่าคน อยู่ๆ ก็ทราบว่า นายอลงกรณ์ ได้กลายเป็นทูตพิเศษ เพื่อไปจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันนี้ จึงอยากรู้ว่ามีหน้าที่อะไร เพราะรัฐบาลมอบหมายให้ไปขายของ เมื่อเดินทางไปที่บ้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไม่กล้าลงจากรถ แต่กลับส่งคนอื่นไปสอบถามแทน แล้วอยู่ๆ ก็มาพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถกลับดูไบได้แล้ว หรือเป็นเพราะขายของไม่ได้หรือ ขอบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพาสปอร์ตของหลายประเทศเต็มไปหมด และขณะนี้ก็อยู่ที่แอฟริกา เป็นราษฎรพิเศษของนิการากัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้รุนแรงไม่น้อยไปกว่าวันที่ 7 ต.ค.51 เพียงแต่มันเกิดขึ้นกับคนสีแดงเท่านั้น

“วันนี้ปัญหามันลามไปเป็น 3 มาตรฐานไปแล้ว คือ แดงอย่างหนึ่ง เหลืองอย่างหนึ่ง และปฏิบัติกับเสื้อน้ำเงินอีกอย่างหนึ่ง ใครก็ตามที่ฆ่าประชาชนที่มาต่อสู้ประชาธิปไตยล้วนเป็นทรราชทั้งสิ้น ถ้าเป็นนายกฯ ก็ถือเป็นนายกฯ ฆาตกร” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุผลที่ไม่ยกเลิก พ.ร.ก.เพราะตำรวจขอเวลาออกหมายจับเพิ่มเติม ซึ่งสมัย 6 ตุลาก็มีการออกหมายจับลักษณะนี้ จนทำให้คนเข้าป่าจับอาวุธสู้ อยากถามว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯแล้ว สามารถเดินทางไปทุกที่ทั่วประเทศไทยหรือไม่ บรรยากาศแบบนี้จะจบลงได้อย่างไร การแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องทำให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพราะถ้าความยุติธรรมไม่เกิดความสงบไม่เกิด สุดท้ายตนไม่เรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ ลาออก หรือยุบสภา เพราะนายอภิสิทธิ์จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย

จากนั้น นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ชี้แจงว่า ตนได้เดินทางไปที่บ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองดูไบจริง เพื่อไปดูสถานที่พักพิงว่ามีจริงหรือไม่ เพราะข่าวที่ออกมาจะบอกตลอดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง จะอยู่ประเทศนั้นทีประเทศนี้ที เมื่อตนได้ไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงได้ไปที่หมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของคนรวย เมื่อถึงหน้าบ้านก็ได้จอดรถ และได้ให้เจ้าหน้าที่สถานทูตลงไปสอบถามว่าเป็นบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ จริงหรือไม่ ก็ได้รับการยืนยันจากแม่บ้านว่าใช่ จึงได้มีการสอบถามว่า นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่หรือไม่ แต่ก็ปรากฏว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน หลังจากนั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยก็ได้แยกไปที่อาบูดาบี และได้รับการยืนยันจากรักษาการปลัดกระทรวงต่างประเทศของยูเออี ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในประเทศของเขา

หลังจากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้อภิปรายตอบโต้ นายจตุพร โดยฉายวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงขับรถแท็กซี่ชนทหาร และช่วงที่มีการขว้างแก๊สน้ำตาและระเบิดขวดใส่ทหาร การขับรถเมล์พุ่งเข้าชนทหาร และกรณีคนเสื้อแดงล้อมและทุบตีรถของนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย

โดย นายสุเทพ ระบุว่า สิ่งที่ นายจตุพร พูดว่าคนเสื้อแดงไม่ได้ทำความรุนแรง จึงไม่เป็นความจริง เพราะคนที่ทำล้วนเป็นคนของท่านทั้งสิ้น ซึ่งตนกำลังแกะภาพทีละคน เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดี รวมไปถึงคนที่ไปปิดล้อมที่ศาลอาญาด้วย ภาพอย่างนี้ตนสร้างไม่ได้ แล้วยังมีหน้ามาปฏิเสธ และบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดชัดเจน

นอกจากนี้ ยังมีภาพที่คนของ นายจตุพร นำปืนของ รปภ.นายกฯ ไปชูบนเวทีหรา จึงอยากถามว่า นายจตุพร มีสิทธิ์อะไรนำ รปภ.นายกฯ ไปกักขัง มีสิทธิ์อะไรถือปืนของ รปภ.นายกฯ ขนาด รปภ.ของนายกฯ ยังถูกคนของ นปช.ทุบตีและใช้อำนาจสอบสวนทั้งที่ไม่มีอำนาจ

ส่วนกรณีที่มีข่าวพลทหารเสียชีวิตที่บ้านของแม่ทัพภาค 1 ซึ่งเป็นช่วงที่ตนกับนายกฯ ไปนอนในระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.นั้น ก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพียงแต่พลทหารนายนั้นเกิดลื่นล้มในห้องน้ำ และเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันถัดมา โดยเพื่อนทหารเห็นว่ามีการนอนที่ผิดปกติจึงรีบนำส่ง รพ.และพบว่า ได้เสียชีวิตแล้ว

ทั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ มีสีหน้าตึงเครียด พร้อมทั้งได้ลุกขึ้นโต้ตอบทันที ว่า การตายของพลทหารที่บ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า เป็นการตายที่ผิดปกติ เพราะก่อนที่พลทหารนายนั้นจะเสียชีวิต เขาได้ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือไปบอกแม่ของเขาว่า นายอภิสิทธิ์ อยู่ที่บ้านของแม่ทัพภาคที่ 1 จากนั้นหนึ่งวันถัดมาก็มีข่าวว่าพลทหารนายนี้เสียชีวิตจากการหกล้มในห้องน้ำ

ด้าน นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ชี้แจงว่า ตนก็ตั้งรางวัลนำจับคนที่กระทำการเผารถเมล์ ขสมก.เช่นกัน โดยใช้เงินส่วนตัว พร้อมให้กับคนที่แจ้งเบาะแสผู้กระทำผิด 1 แสนบาทเช่นกัน ขณะที่ นายจตุพร ได้ลุกขึ้นสวนทันควันว่าเหตุใดจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจำนวนมากไปซ่องสุมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ และทำเพื่ออะไร ซึ่ง นายโสภณ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนยอมรับอย่างไม่อาย ว่า มีชาวบ้านไปที่สนามบินสุวรรณภูมิจริง แต่ไปเพื่อจะปกป้องสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่มีการทำผิดกฎหมายแน่ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งที่ไปอารักขาสนามบินสุวรรณภูมิเอาไว้ เพราะเกรงว่าม็อบเสื้อแดงอาจเข้าไปล้อมปิดสนามบิน