“สุรพงษ์” รับเต็มปาก “นช.แม้ว” เป็นนายใหญ่ ปัดสวะ อ้างคนเสื้อแดงไม่รู้เรื่องเหตุเผารถเมล์ ปล้นรถแก๊ส ยังมีหน้าโยนรัฐบาลจัดฉาก ทำลายความน่าเชื่อถือกลุ่ม นปช.ทั้งอ้างทหารทำรุนแรงสลายจลาจล โมเมภาพถ่ายล้อรถเมล์ที่คนเสื้อแดงเผาไหม้เกรียมมาประกอบ “สุเทพ” สวน โชว์ภาพแดงถ่อย รุมสกรัม “นิพนธ์” ที่มหาดไทย ประณามเถื่อน นปช.แจงเสื้อน้ำเงินเป็นอาสาสมัครพัทยาสุดทนพฤติกรรมป่วนเมืองเสื้อแดงเลยออกมาขับไล่
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่รัฐสภา ในการอภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภาช่วงบ่าย นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายซักถามข้อเท็จจริงถึงเบื้องหลังกลุ่มบุคคลที่สวมเสื้อสีน้ำเงิน ที่เข้าทำร้ายกลุ่ม นปช.ที่พัทยา จ.ชลบุรี พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ปล้นรถเมล์มาเผาทำลาย และการนำรถแก๊สไปจอดที่จุดต่างๆ เป็นการจัดฉากทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่ม นปช.และพยายามอภิปรายเน้นย้ำให้เห็นว่า รัฐบาลโดยกำลังพลทหารใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ทั้งนี้ ได้นำภาพถ่ายในเหตุการณ์ต่างๆ มาประกอบการอภิปราย และยืนยันข้อมูล ทั้งภาพถ่ายที่ทหารกำลังยิงปืนในแนวราบ ภาพผู้บาดเจ็บจากกระสุนปืน รวมถึงการนำล้อรถเมล์ที่ถูกคนเสื้อแดงเผาเหลือแต่กระทะล้อมีร่องรอยกระสุนปืน 1 รู มาแสดง และอ้างว่าเป็นรูกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ทหารยิงเข้าใส่
นอกจากนั้น นายสุรพงษ์ ยังกล่าวปฏิเสธแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ว่า บุคคลหลายฝ่ายตั้งข้อกล่าวหาเกินจริง และเห็นว่า สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งในสังคม จึงเสนอให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน โดยระหว่างอภิปรายนายสุรพงษ์ ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือนายใหญ่ของเขา
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายสุรพงษ์ ทุกข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง และมอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เป็นผู้ชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมด
โดยต่อมา นายสุเทพ ลุกขึ้นชี้แจงกรณีที่ นายสุรพงษ์ ระบุว่า รัฐบาลใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีคำประกาศร่วมล้มล้างรัฐบาล และจะเดินนำประชาชนเพื่อการปฏิวัติ เป็นการอ้างอิงตามข้อมูลที่สื่อมวลชนนำมาเผยแพร่
สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่า รัฐบาลจัดฉากทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น นายสุเทพ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย ที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้บุกไปทำร้ายนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งเลขาส่วนตัวและคนขับรถ ว่า น่าจะสะท้อนภาพการชุมนุมได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับข้อกล่าวหาที่ว่า นายกรัฐมนตรีรู้เห็นเป็นใจกับคนใส่เสื้อสีน้ำเงินไปทำร้ายคนเสื้อแดงที่พัทยา ว่า ก่อนเกิดเหตุมีรายงานว่าตำรวจไม่สามารถระงับการบุกรุกกลุ่มผู้ชุมนุมได้ จึงปรึกษากับผู้ว่าราชการ จ.ชลบุรี และนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา กับประชาชน ซึ่งทั้งหมดห่วงใยต่อสถานการณ์ จึงทำให้เกิดอาสาสมัครมาช่วยตำรวจและทหาร