“มาร์ค” เล่านาทีชีวิตในที่ประชุมลับ ครม. ชี้เหตุการณ์ที่มหาดไทยถึงขั้นเอาชีวิตตนเอง รับประเมินสถานการณ์เสื้อแดงที่พัทยาผิดพลาด ลั่นงานนี้ต้องยกเครื่องรักษาความปลอดภัยครั้งใหญ่ “เสธ.หนั่น-สุวิทย์” ตำหนิ ตร.-ทหารเกรียร์ว่าง น่าปรับโยกย้าย ขณะที่นายกฯ เบรกยังไม่ถึงเวลา อ้างต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหตุการข่าวพบข่าวแกนนำยังเคลื่อนไหว เปรยพักผ่อนน้อย ขณะที่ “สุเทพ” สีหน้าเคร่งเครียดไม่พูดแม้แต่คำเดียวในที่ประชุม ครม. ขณะเดียวกัน “นิพนธ์” เข้าทำเนียบ หน้าตายิ้มแย้ม บอกหายดีแล้ว เผยนายกฯ เตรียมให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ 3 สำนัก ชี้แจงสถานการณ์สลายการชุมนุม
แหล่งข่าวที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีตามวาระปกติเสร็จสิ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้มีการประชุมลับ โดยเชิญข้าราชการออกจากห้องประชุม โดยนายกฯ ได้กล่าวในที่ประชุมลับว่า วันนี้มีหลายเรื่องที่อยากจะคุยอยากแรกต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งรัฐมนตรีได้ทั่วถึงในการตัดสิน ทราบว่ามีผลกระทบกับทุกคน แต่ก็ได้ใช้โทรศัพท์แจ้งให้ทราบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่พัทยาในการประชุมอาเซียนซัมมิต ตนยอมรับว่าประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงผิดพลาด ซึ่งที่พัทยาจริงแล้ว ต้องการใช้วิธีการทางกฎหมาย โดยขอศาลให้มีการออกหมายจับแกนนำ มาถึงที่กระทรวงมหาดไทย
“ซึ่งเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย ทำให้เห็นเลยว่าถึงขั้นเอาชีวิตผม จากเหตุการณ์ที่พัทยาทำให้คนเสื้อแดงฮึกเหิม และที่ผมต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อต้องการควบคุมสถานการณ์ไว้ให้ได้ และให้เกิดความปลอดภัยกับตัวผู้นำ เพราะทางด้านการข่าวเชิงลึกความมั่นคงก็ได้บอกกับผมแล้วว่าอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยในตัวผู้นำ และเมื่อประกาศใช้แล้วต้องดำเนินการให้จบ ส่วนเหตุการณ์การก่อจลาจลในกรุงเทพฯ ผมยืนยันได้ว่า ผมมีความตั้งใจแต่แรกเลยว่าจะไม่ใช้วิธีการสลายการชุมนุม แต่จะใช้วิธีการใช้กำลังทหารเข้ากดดัน แต่ปรากฏว่าทางแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้ต่อสายถึงคนรัฐบาลมาก่อนว่าทางกลุ่มคนเสื้อแดงขอสลายการชุมนุม”
แหล่งข่าวที่ประชุม ครม.เปิดเผยอีกว่า นายกฯ ยังได้กล่าวในที่ประชุมอีกว่า การที่ต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้นั้น เพราะพบว่ายังมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ และเพื่อต้องการควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งความมั่นคงจะขัดต่อนโยบายการท่องเที่ยว แต่เชื่อว่าทุกคนเข้าใจ “เพราะเราต้องเอาความมั่นคงของชาติมาก่อน”
จากนั้นบรรดารัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลต่างให้กำลังใจนายกฯ และแสดงความชื่นชมต่อการตัดสินแก้ไขปัญหาครั้งนี้ โดยกล่าวว่านายกฯ ตัดสินใจครั้งนี้ด้วยความนุ่มนวล แต่มีความเด็ดขาด ไม่เกิดความเสียหายเกิดขึ้น และรัฐมนตรีทุกคนพร้อมจะให้ความร่วมมือกับนายกฯ ต่อไปโดยไม่มีความแตกแยก ขณะเดียวกัน ได้มีรัฐมนตรีหลายคน อาทิ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งข้อท้วงติงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทำหน้าที่ไม่เต็มที่ เข้าลักษณะเกียร์ว่าง ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ตรงนี้เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นอย่างไร การรักษาความปลอดภัยยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่คงต้องมาทำกันใหม่ในเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัย การดูแลผู้นำหรือรัฐมนตรีต้องเข้มงวดมากกว่านี้ และหากรัฐมนตรีคนใดต้องการดูแลรักษาความปลอดภัยก็ให้บอกมา รวมถึงครอบครัวด้วย โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
แหล่งข่าวที่ประชุม ครม.เปิดเผยอีกว่า นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า เวลานี้มีความพยายามบิดเบือนว่า มีการตายในการสลายม็อบเสื้อแดงในครั้งนี้ ในเรื่องที่จะมีการประกาศคนหาย ซึ่งอาจจะก่อให้ความเข้าใจผิดว่ามีการตายเกิดจากการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ ซึ่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจงให้ตรงกัน เพราะเรื่องข่าวการตายต้องชี้แจงชัดเจน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นจุดอ่อน ทั้งนี้ ตนได้ทำหนังสือประสานไปยังประธานสภาฯ แล้วว่าจะให้มีการขอเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 22-23 เม.ย.นี้โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งตนพร้อมที่จะตอบชี้แจงในทุกเรื่อง ส่วนเรื่องข้อวิจารณ์ว่ารัฐบาลดำเนินการต่อกลุ่มผู้ชุมนุมสองมาตรฐานนั้นไม่ต้องกังวล ตนยืนยันว่าทั้งคดีทั้งกลุ่มคนเสื้อเหลืองและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะกับแกนนำที่พยายามปลุกปั่น นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า “ผมไม่ค่อยได้พักผ่อน ที่ผ่านมาผมนอนดึกทุกวัน”
แหล่งข่าวในที่ประชุม ครม.เปิดเผยด้วยว่า ในระหว่างการประชุม ครม.นายสุเทพ ไม่ได้พูดแม้แต่คำเดียว โดยมีสีหน้าที่เคร่งเครียด ขณะที่นายกฯ ได้กล่าวขอบคุณนายสุเทพในที่ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น.นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าบุกทุบรถที่กระทรวงมหาดไทย โดยมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม พร้อมกับกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าหายดีแล้ว ส่วนคนขับก็อาการดีขึ้นแล้ว แผลฟกช้ำดำเขียวไม่มีแล้ว เหลือแต่แผลสดที่อยู่ด้านใน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ตกใจอะไร แต่เสียดายรถมากกว่าเพราะเป็นรถของทำเนียบ ตอนนี้ก็มาใช้รถส่วนตัว
ขณะที่เมื่อเวลา 16.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ 3 สำนัก ได้แก่ สำนักข่าวบีบีซี สำนักข่าวอัลจาซีรอ และสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สำนักข่าวละ 20 นาที เพื่อชี้แจงสถานการณ์ โดยส่วนใหญ่สอบถามนายกฯ ถึงเหตุการณ์และสอบถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี