“ศุภชัย” แถลงข่าวแจงตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุแดงถ่อยป่วนประชุมอาเซียนที่พัทยา 11 ราย เข้ารักษาตัวใน ร.พ.รวม 8 ราย สาหัส 1 ราย ปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ 3 ราย ยันไม่มีผู้เสียชีวิต คนเจ็บทั้งหมดเป็นกลุ่มเสื้อน้ำเงิน ไม่มีเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว ผู้ว่าฯ ชลบุรี วอนผู้ประกอบการ-นักท่องเที่ยวดำเนินชีวิตปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 11 เม.ย. รอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวร่วมกับนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ชี้แจงว่า กรณีที่เกิดการประทะกันระหว่างการชุมนุมและประชาชน ผลจากการตรวจสอบจากโรงพยาบาลพบว่า ที่ รพ.พัทยาเมมโมเรียล พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน กลับบ้านไปแล้ว 3 ราย ส่วนที่ รพ.กรุงเทพพัทยา มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เนื่องจากสะเก็ดระเบิดหรือกระสุนปืน และได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดมือและรถเฉี่ยวชนอีก 2 ราย ส่วนที่ รพ.อ่าวอุดม ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ประกอบด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บแขนขวาและ บาดแผลบริเวณเข่าขวา และมีการปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ 3 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่ปรากฏว่า บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บเป็นคนกลุ่มเสื้อแดง ไม่มีกลุ่มเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บเลย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน และไม่ปรากฏว่ามีการเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว ซึ่งจากการตรวจสอบวัดในจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะที่วัดชัยมงคล ตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงกล่าวอ้างว่าถูกยิงและเสียชีวิต ไม่มีการนำศพไปวัดดังกล่าวแต่อย่างใด
นายศุภชัยกล่าวว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้พื้นที่พัทยาและจังหวัดชลบุรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ประกาศแต่งตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสถานการณ์ บังคับให้เป็นไปตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหากเห็นว่าพื้นที่บริเวณใดต้องเป็นไปตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จะมีคำสั่งออกมาเป็นข้อกำหนดว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ที่จะต้องมีความฉุกเฉินร้ายแรง ถ้าไม่มีการประกาศพื้นที่ในจังหวัดชลบุรี หรือเมืองพัทยาก็เป็นพื้นที่ปกติ ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ปกติได้ สามารถประกอบธุรกิจตามปกติได้ รัฐบาลจะดูแลสถานการณ์ ถ้าทุกอย่างสงบ หลังจากนั้นจะมีการประกาศยกเลิกอย่างไรก็จะประกาศให้ทราบอีกครั้ง ส่วนการประเมินความเสียหายนั้นยังไม่ได้มีการประเมินใดๆ
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมาแล้วมีการประชุมระหว่างผู้ประกอบการที่โรงแรมดุสิต รีสอร์ท ซึ่งตนได้หารือกับนายสุเทพ โดยระบุว่า ไม่ประสงค์ให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตโดยไม่จำเป็น ภาคธุรกิจยังสามารถดำเนินการได้อยู่ นอกจากนี้วัตถุประสงค์ของประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้ เพื่อต้องการให้สถานการณ์สงบโดยเร็ว ขอเรียนว่า อย่าได้ตกใจ และขอความร่วมมือทางราชการว่า หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายใด ขอให้มอบหลักฐานหรือแจ้งเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐ และวิงวอนว่า อย่าได้สนับสนุนกิจการใดๆ ที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข ในการเรียกร้องความสงบกลับคืนมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการแจ้งนักท่องเที่ยวต่างชาติทราบถึงสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ นายสุรพลกล่าวว่า จะแจ้งให้กับนักท่องเที่ยวทราบ และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
