“ณัฐวุฒิ” ดราม่า อ้าง “ปิดถนนเพื่อเปิดประชาธิปไตย” บอกแกนนำตัดสินใจสุดยาก และเจ็บปวดที่สุดก่อนสั่งม็อบเสื้อแดงยึด 2 อนุสาวรีย์ ออกปากทำเป็นเห็นใจประชาชนที่เดือดร้อน แต่บอกอาจจะปิดต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายโดยไม่ต้องแคร์อะไรอีกแล้ว สำหรับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.หลังเคลื่อนผู้ชุมนุมทำการปิดถนนบริเวณรอบๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา กระทั่งทำให้การจราจรติดขัดเป็นอัมพาตในหลายๆ เส้นทาง นำมาซึ่งความเดือดร้อนและเสียงก่นด่าจากประชาชนจำนวนมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวตามโรงพยาบาลในบริเวณดังกล่าว
ล่าสุด ในช่วงเวลา 19.35 น.ที่ผ่านมา หนึ่งในแกนนำของกลุ่ม นปช.“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ก็ได้ออกมากล่าวอ้างถึงความจำเป็นที่ต้องกระทำการเย้ยกฎหมายในครั้งนี้ ว่า เป็นเพราะทางรัฐบาลเมินที่จะกระทำตามข้อเรียกร้องที่ทาง นปช.ได้เสนอไป อาทิ บีบให้ประธานองคมนตรี รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ลาออก
โดยแกนนำ นปช.ยังบอกต่อไปว่า ด้วยเหตุผลที่ว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุมขึ้นมาด้วยการปิดถนนในบริเวณดังกล่าว รวมถึงบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมทำดราม่าโดยบอกว่าการกระทำครั้งนี้เป็นการปิดถนน เพื่อเปิดประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากและเจ็บปวดที่สุดของแกนนำ ก่อนหน้าด้านอ้างว่า ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเองไม่เคยใช้ความรุนแรง และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกว่า ตนรู้ว่ามีประชาชนจำนวนมากต้องได้รับผลกระทบจากการกระทำครั้งนี้ ทว่า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการปิดถนนทั้งบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นั้น จะกินเวลานานเพียงใด หนึ่งในแกนนำ นปช.บอกว่า ยังไม่มีกำหนดเวลา
ก่อนจะย้ำเป็นแผ่นเสียงตกร่อง วอนให้ประชาชนเข้าใจว่าการที่กลุ่มเสื้อแดงต้องกระทำการวุ่นวาย ป่วนให้ประเทศชาติเสียหายในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ได้มาซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง