“บุญยอด” แฉพบข้อมูล “ทักษิณ” บินไปยุโรป พบผู้ใหญ่อดีตนักการทูตเครือญาติเดียวกัน เชื่อผู้ใหญ่จะชี้ทางสว่างให้ แนะจับตาท่าทีการโฟนอิน อาจสร้างสรรค์ขึ้น ขณะที่ “เทพไท” เย้ย เหตุหยุดโฟนอิน เพราะมุกแป้ก แนะงัดข้อมูลใหม่มาโชว์ ซัดอ่อนยอมเจรจาหวั่นตั้งแง่หาประโยชน์ใส่ตัว ดักทางระบุแนวทางเจรจาต้องไม่เอื้อประโยชน์ส่วนตน ย้ำต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ได้ปาฐกถาเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ข้อคิดที่องคมนตรีให้นั้น เป็นที่น่ารับฟังอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเตือนสติคนไทยทุกคน โดยเฉพาะใครก็ตามที่มุ่งร้ายสถาบันมีอันต้องเป็นไป อยากให้คนที่คิดร้ายต่อสถาบันพึงสำนึก ว่า กฎแห่งกรรมเป็นเช่นไร แต่สิ่งที่กังวล คือ ข้อคิดที่เตือนสติเช่นนี้ อาจนำไปเป็นเหยื่อปราศรัยโจมตีของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงแน่นอน จะเห็นว่า ที่ผ่านมา ใครที่ออกมาเตือนสติสังคม และมีความเห็นไม่สอดคล้องก็จะถูกหยิบไปปราศรัยไปโจมตีสาดเสียเทเสีย จึงอยากเตือนแกนนำ นปช.ว่า การกล่าวพาดพิงองคมนตรี ควรใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม การใช้คำโจมตี ไอ้ อี แต๋ว ตุ๊ด ไม่ควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมีการถ่ายทอดทางสถานีดี สเตชั่น ซึ่งเป็นโทรทัศน์เถื่อนไม่มีหน่วยงานใดที่เข้ามาดูแล จึงควรระวังการกระทำด้วย
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงยื่นเงื่อนไข 4 ข้อ ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป้าหมายจากเดิมที่มุ่งทำลายล้างรัฐบาล ไปเป็นทำลายสถาบันองคมนตรี ไม่แน่ใจว่า อนาคตต่อไปจะหยุดที่จุดไหน แต่เป็นการทำลายโครงสร้างของสังคมอย่างแน่นอน การที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการเรียกร้องจริงหรือไม่ เพราะดูภูมิหลังของแกนนำบางคน เช่น นายวีระ มุสิกพงศ์ ที่มีอุปโลกน์ให้เป็นประธานที่เรียกร้องประชาธิปไตย และต่อต้านเผด็จการ แต่ถ้าย้อนกลับไปดูวันที่ 26 มี.ค.20 นายวีระ เป็นผู้ต้องหากบฏแผ่นดิน ยึดอำนาจไม่สำเร็จ และยังเป็นนักโทษคดีหมิ่นเดชนุภาพ ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นต้องหาคดีนี้อยู่ ถ้าเปรียบเสมือนพระที่ปาราชิก ไม่สมควรมาเทศน์ให้ผู้ทรงศีลฟัง
ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่เผด็จศึกในวันที่ 8 เม.ย.โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยุติการโฟนอิน ผ่านวิดีโอลิงก์ เพื่อรวบรวมข้อมูลและกลับมาพูดอีกครั้งในวันที่ 8 เม.ย.นายเทพไท กล่าวว่า คำพูดของคนเสื้อแดงอาจไม่เป็นความจริง เหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพูดเพราะหมดข้อมูล ที่ออกมาโจมตี
“ดูได้จากคำพูดครั้งสุดท้าย เห็นชัดว่า สะเปะสะปะว่ากล่าวโดยไม่มีเหตุผล ข้อมูลเดิมๆ ไม่มีรูปแบบใหม่ ไม่มีมุขหรือหมดมุก ภาษาตลกคาเฟ่ เรียกว่า มุกแป้ก ถ้าจะพูดอีกครั้งในวันที่ 8 เม.ย.ขอให้เป็นเรื่องใหม่ เพราะเสียเวลา” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า พร้อมเจรจานั้น อยากถามว่า เป็นความประสงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จริงหรือไม่ เพราะเป็นคนไม่อยู่กับร่องกับรอย ปลิวๆ หายๆ ถ้าเป็นจริง ตนอยากฟังจากคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เอง เพราะข้อเสนอนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เคยเสนอหลายครั้ง แต่ทำไมไม่สนองตอบ หรือเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ จนด้วยเหตุผลข้อมูลต่างๆ จึงกับมาพร้อมเจรจา หรือเป็นไปตามแผนที่มีการวิจารณ์ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ กดดัน เพื่อรอให้คนคนหนึ่งมาเจรจาสงบศึกให้ อย่างไรก็ตาม หากมีการเจรจาจริงจะต้องปราศจากผลประโยชน์ส่วนตัว และจะต้องมีข้อตกลงที่เป็นผลประโยชน์ส่วนรวม และอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายไม่มีการยกเว้น เพราะหากยกเว้นให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ ก็จะทำให้นักโทษอีกหลายคนออกมาเรียกร้องเป็นเงื่อนข้อเจรจาให้ยกโทษ
ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่า เมื่อคืนวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางออกจากประเทศดูไบ ยังประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป โดยมีการเจรจากับคนใกล้ชิดที่เป็นคนเชียงใหม่ ได้แนะนำให้ไปพบผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใกล้ชิดและเคารพอย่างมาก โดยผู้ใหญ่ท่านนี้อาวุโส วัย 80 ปี เป็นเครือญาติห่างๆ แต่ใกล้ชิดกับปู่ ย่า พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นอดีตทูตไทยในต่างประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องดีที่อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะมีหลายฝ่ายให้คำแนะนำ แนวคิด และการพูดจาของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงน่าจับตาว่า การพูดจาของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในลักษณะที่สร้างสรรค์มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมมั่นใจว่า ผู้ใหญ่ท่านนี้จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดจาสร้างสรรค์ขึ้น นายบุญยอด กล่าวว่า เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคารพมาก และอาจจะให้ข้อมูลหรือแนวทางใหม่ และเป็นทางออกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ฟังแต่คนรอบข้าง นอกจากนี้ การที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.พูดว่า ไม่ได้เป็นแกนนำ กลุ่ม นปช.โดยทุกคนมีความเท่าเทียมกัน แสดงให้เห็นว่า คนพวกนี้จะไม่รับผิดชอบต่อการชุมนุมครั้งนี้