“เพื่อแม้ว” เปิด 27 รายชื่อ ตัวแทนรับเงินแทน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ดึงเงินเข้าพรรค พร้อม ยื่นสรรพากรสอบ ขีดเส้น 30 วันจัดการ ระบุ ล่าชื่อ 116 ส.ส.ยื่น ปธ.วุฒิ ถอดถอน “สุเทพ” แทรกแซงกรรมการตำรวจ
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีของบุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีการโอนเงินจากบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่าน บริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด จำนวน 258 ล้านบาท เข้าพรรคประชาธิปัตย์ และกรณีเงิน 23 ล้านบาทของ กกต.ว่า พรรคเพื่อไทยได้ชี้ให้กรมสรรพากร เห็นว่า บุคคลเหล่านี้มิได้รับเงินไว้เอง แต่รับไว้แทนผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์บางคนในขณะนั้น โดยรายชื่อบุคคลที่ได้รับเงินมีจำนวน 27 คน ดังนี้ 1.นางพัชรภรณ์ ติระเลิศพาณิชย์ ได้รับ 20 ล้านบาท 2.นายมานพ น้าสุวรรณ 19 ล้านบาท 3.นายประมูล หอมหวน 15.943 ล้านบาท 4.นายปัญญา ประสงค์ 14.605 ล้านบาท 5.นายณัชพล จิรสุทธิกุล 12.607 ล้านบาท 6.นางมาลี ปัญญรักษ์ 10 ล้านบาท 7.น.ส.จันทร์จิรา ศรีหบุตร 9.9 ล้านบาท 8.นายจักริน พงษ์พันธ์ 3.1ล้านบาท 9.นายมนูญ สายอ๋อง 3.6 ล้านบาท 10.นายสวัสดิ์ สังขาว 9 ล้านบาท 11.น.ส.ธิทาภรณ์ ศักดิ์สกุล 7.305 ล้านบาท 12.น.ส.รัตติยา ละอองจิปดา 7.2 ล้านบาท 13.น.ส.อาภรพร เอกอุรุ 3.6 ล้านบาท 14.นายอัฎกร พระธาตุ 3.6 ล้านบาท 15. นายสมศักดิ์ เอกอุรุ 1.8 ล้านบาท 16.นายโชคชัย 3.8 ล้านบาท 17.น.ส.พรทิวา (ไม่ทราบนามสกุล) 1.8 ล้านบาท 18.น.ส.ฐิติมา พูลเพิ่ม 5 แสนบาท 19.นายดิเรก ประสงค์ 1.8 ล้านบาท 20.นายรังสิต สังขาว 1.8 ล้านบาท 21.นางรัตน์ พงษ์พันธ์เกธา 1.2 ล้านบาท22.นายวิรัล ธาวะนันท์ 1.9 ล้านบาท 23.นายอนุรักษ์ สังกุล 3.6 ล้านบาท 24.น.ส.สิรินารถ (ไม่ทราบนามสกุล) 25.สุนทรี ถาวรย์ 1.8 ล้านบาท 26.ไม่ทราบรายชื่อ 1.8 ล้านบาท และ27.นางศิริลักษณ์ ไม้ไทย ไม่ทราบจำนวนเงินที่ชัดเจน โดยพรรคจะให้เวลากรมสรรพากรในการดำเนินการ 30 วัน
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นถอดถอน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กรณีที่ นายสุเทพ เป็นประธานการประชุมข้าราชการตำรวจว่า พรรคเพื่อไทย รวบรวมรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ 116 คน เพื่อยื่นถอดถอน นายสุเทพ เพราะผิด พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2547 และยังมีการก้าวก่ายงานของกระทรวงวัฒนธรรมกรณีออกหนังสือให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปช่วยราชการ นอกจากนี้ พรรคยังจะยื่นถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วย เพราะมีรายละเอียดของคำสั่งที่ นายอภิสิทธิ์ มอบอำนาจให้ นายสุเทพ ไปประชุม ซึ่งเข้าข่ายผิดมาตรา 274 ของรัฐธรรมนูญด้วย โดยจะยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภาในวันที่ 2 เม.ย.
“สุรพงษ์”ไล่งับ“มาร์ค-กรณ์”ไม่หยุด
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่าจะดำเนินการกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวานิช รมว.คลัง กรณีที่ให้ผู้ประกอบกิจการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือส่งข้อความสั้น หรือ เอสเอ็มเอส จำนวน 17 ล้านเลขหมาย เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเป็นการขยายผลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า แม้ทั้ง 2 คนจะระบุกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าไม่มีการจ่ายค่าบริการ และไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากภาคเอกชนนั้น แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา103 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่กำหนดข้อห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะยื่นคำร้องให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 275 และ 276 เพื่อให้ศาลฎีกาพิจารณาแต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระเพื่อดำเนินการไต่สวนด้วย
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวนายสุรพงษ์หยิบมาเป็นประเด็นโจมตีนายอภิสิทธิ์ตั้งแต่หลังจากได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือน ธ.ค.51 โดยในครั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ได้ส่งข้อความสั้นเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกู้วิกฤติชาติ โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือไม่ได้เก็บค่าใช้จ่าย นายสุรพงษ์จึงอ้างว่า นายอภิสิทธิ์ได้ประผลประโยชน์จากการส่งเอสเอ็มเอสคิดเป็นมูลค่า เกินกว่า 3,000 บาท ตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงในสภาว่า การส่งเอสเอ็มเอสครั้งนี้ ไมได้ส่งเรื่องส่วนตัว แต่เป็นส่วนหนึ่งของงานในหน้าที่นายกรัฐมนตรี
“พร้อมพงศ์”ตาแหก อ้าง“พล.ม.2 สนามเป้า-พล.ปตอ.เกียกาย”เตรียมสลายเสื้อแดง
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 สนามเป้า) และกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) เกียกกาย มีการเตรียมกำลังผิดสังเกตโดยอ้างว่าเป็นการฝึกภาคสนาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำตัวเป็นรัฐบาลหอย มีเปลือกหอยคอยคุ้มครอง นอกจากนี้ยังมีการไปพบกับอดีตผู้นำเหล่าทัพชื่อ “ส.” ผู้นำเหล่าทัพในปัจจุบัน และคนระดับสูงในกองทัพ โดยส่อว่าจะมีการใช้กำลังกับผู้ชุมนุม ดังนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลด้านความมั่นคงจะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ และอย่าทำเป็นปากว่าตาขยิบ
ร้องภาคธุรกิจวิจารณ์นโยบายรัฐบาล
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปร่วมประชุม จี20 ที่ประเทศอังกฤษ ในฐานะประธานอาเซียนว่า วันนี้รัฐบาลวิเคราะห์เศรษฐกิจผิด และออกมาตรการแก้ปัญหาที่ผิดพลาด เห็นได้จากไตรมาสแรกที่ผลการส่งออกติดลบต่อเนื่อง การท่องเที่ยวก็ย่ำแย่ ไม่มีมาตรการอื่นมีแต่จะยื่นกู้ไอเอ็มเอฟ มาตรการหาเงิน การช่วยเหลือผู้ตกงานและส่อว่าจะตกงานไม่มีให้เห็น ดังนั้นขอเรียกร้องภาคธุรกิจและภาคเอกชน เช่น ประธานหอการค้า ภาคอุตสาหกรรม และสมาคมการท่องเที่ยว เป็นต้น ให้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแก้ปัญหาของนายอภิสิทธิ์ ออกมาเสนอแนะและติติงก่อนที่วิกฤตเศรษฐกิจจะยิ่งดิ่งเหวจนแก้ไขไม่ได้ไปยิ่งกว่านี้