“เทพไท” แฉ “แม้ว” ดิ้นหนักหวังรอดคุก เหตุคดีใกล้ตัดสิน

“เทพไท” แฉ “ทักษิณ” พล่ามรายวันเหตุหวังดิ้นเพื่อให้รอดคุก หลังหลายคดีใกล้ตัดสิน ดักคอขอใช้วิดีโอฯ ให้การต่อศาล ไม่เข้าข่ายข้อกำหนดศาล แนะศาลใช้ช่วง “แม้ว” สาบานตน พร้อมระบุที่อยู่ก่อนให้การเพื่อตามจับตัว

วันนี้ (26 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดตัวเคลื่อนไหวรุนแรงในช่วงหลังนี้ว่า เป็นเพราะคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเข้าสู่การพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมหลายคดี จึงจำเป็นที่ต้องดิ้นสุดชีวิตเพื่อกดดันศาล และหวังผลทางคดีความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ถูกตั้งข้อหาว่าใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้องจนสร้างฐานะภายในไม่กี่ปีให้เกิดความร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งศาลกำลังพิจารณาให้ทรัพย์สินจำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทที่มีการอายัดไว้ก่อนหน้านี้ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณจำเป็นต้องปรากฏตัวต่อศาลในฐานะผู้ถูกกล่าวหา

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ในกรณีนี้ได้มีทนายความได้ยื่นร้องต่อศาล โดยอ้างข้อกำหนดในการดำเนินคดีของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 20 ระบุสรุปใจความไว้ว่า หากคู่ความฝ่ายใดร้องขอต่อองค์คณะผู้พิพากษา ทางคณะผู้พิพากษาอาจอนุญาตให้สามารถใช้การประชุมทางจอภาพ หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ โดยผู้ร้องขอต้องเป็นผู้ดำเนินการเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ส่วนตัวเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวเปิดโอกาสให้กับบุคคลทั่วไปที่มีความบริสุทธิ์และมีภารกิจที่ไม่สามารถมาปรากฏตัวต่อศาลได้ แต่กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าไม่ใช่บุคลตามภาวะปกติ เพราะเป็นบุคคลที่มีคดีติดตัวที่ศาลเคยมีคำพิพากษาให้จำคุกแล้ว และถ้ามาปรากฏตัวต่อศาลจะถูกจับกุมเพื่อดำเนินการ ตามกฎหมายจึงจำเป็นต้องหนีศาล ไม่มาปรากฏตัวต่อศาล ข้ออ้างของทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่เข้าข่ายตามข้อกำหนดที่ 20 นี้

“ถ้าศาลได้ใช้ดุลยพินิจให้ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้นั้น ก่อนการเบิกความต่อศาลก็จะต้องสาบานตนและเปิดเผยที่อยู่ในปัจจุบันต่อศาล ก็จะเป็นโอกาสที่ดีของเจ้าหน้าที่ผู้ที่รับผิดชอบในการติดตามตัวบุคคลผู้หลบหนีคดี เพื่อที่จะได้ออกตามตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และจับกุมมารับโทษได้” นายเทพไท กล่าว