“ณัฐวุฒิ” ไม่เลิกป้องนาย ยัน “แม้ว” พร้อมรับผิดชอบทุกคำพูด พร้อมปูด “พิเชษฐ” พา “พัลลภ” พบ “แม้ว” ที่เมืองจีนเอง ส่อนิสัยก้าวร้าวผู้ใหญ่ในบ้านเมืองระบุล้วนเคยอยู่ใต้บัญชานาย แถมถูกจับได้ว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ จวก “ชวรัตน์-บุญจง” คาดโทษผู้ว่าฯปล่อยเสื้อแดงร่วมชุมนุม ไม่หวั่นขนตำรวจแม่นปืนดูแลการชุมนุม ท้าเปลี่ยนพนักงานสอบคดีพันธมิตร
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช.แถลงถึงวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ ว่ามีปฏิกิริยาจากหลายฝ่ายที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณเอ่ยถึงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลบ้านเมืองในขณะนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันในข้อเท็จจริงทุกประการที่ได้พูดผ่านวิดีโอลิงก์ไป และพร้อมรับผิดชอบคำพูดในทุกประเด็นทุกกรณี แต่คนที่กระทำการให้เกิดความวุ่นวายจนประเทศชาติเสียหายอย่างในปัจจุบันพร้อมที่จะรับผิดชอบการกระทำของตัวเองด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังยืนยันด้วยว่า ในวันที่ 27 มี.ค.จะวิดีโอลิงก์มาที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย โดยจะพูดในประเด็นทางออกของประเทศไทย การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาสังคม และพูดถึงแนวคิดในการคลี่คลายวิกฤตการเมือง รวมทั้งสาเหตุและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่ความจริงจะทำให้ประเทศพบกับทางออก
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างคำพูดของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน.ในระหว่างการพูดผ่านวิดีโอลิงก์นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เล่าให้ตนฟังว่า พล.อ.พัลลภเดินทางไปพบเมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมาที่ประเทศจีน ซึ่งคนที่พาไปคือนายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธาน ส.ส.ภาคใต้พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ในวงสนทนาวันนั้นยังมีอีก 3 คนที่อยู่ร่วมวงสนทนาด้วย ดังนั้น อีก 3 ท่านจึงน่าจะรับทราบถึงคำพูดของ พล.อ.พัลลภ และพ.ต.ท.ทักษิณด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับท่าทีของ พล.อ.พัลลภที่ปรากฏเป็นข่าวว่าไม่ได้พูดในบางประเด็นนั้น ตนไม่ได้ถาม พ.ต.ท.ทักษิณแต่เข้าใจว่าเกิดจากข้อจำกัดของ พล.อ.พัลลภในเวลานี้ แต่ที่ทราบเหตุผลอย่างหนึ่งที่ พล.อ.พัลลภรู้สึกไม่สบายใจ คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดไว้ก่อนจะมีการยึดอำนาจว่า กระทำโดยไม่หวังที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมืองเอง แต่หลังการยึดอำนาจ 19 ก.ย.2549 พล.อ.สุรยุทธ์กลับดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องและทยอยออกมาตอบโต้ว่าเป็นการจับแพะชนแกะนั้น ตนมองว่าเป็นการจับเด็กเลี้ยงแกะที่ไม่พูดความจริงกับสังคมไทยมากกว่า พูดและทำคนละอย่างตลอดเวลา
สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทบกับผู้ใหญ่ของบ้านเมืองนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ใช่เด็กแล้วเหมือนกัน บุคคลหลายท่านที่ถูกเอ่ยอ้างถึงก็เคยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.ต.ท.ทักษิณในสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี วันนี้เราต้องมาพูดความจริงเพื่อให้ทุกฝ่ายไปขบคิดแก้ปัญหา วันนี้ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการเคลื่อนไหวของคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มี.ค.นั้น ทราบว่ามีการสกัดกั้นหลายวิธีการ โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ลุแก่อำนาจด้วยการคาดโทษผู้ว่าราชการจังหวัดว่า อาจมีการลด ปลด ย้าย หากไม่พอใจผลการดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นอกจากนี้ยังมีการสกัดกั้นรถบรรทุกของประชาชนเพื่อไม่ให้มาร่วมชุมนุม รวมทั้งยังมีหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเข้าใจว่าเป็นกรมขนส่งทางบก ที่กดดันผู้ประกอบการรถทัวร์ไม่ให้รับงานของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะเข้ามาชุมนุมใน กทม. ถือเป็นการกระทำที่ขาดเขลา เบาปัญญา
ส่วนเรื่องอัตรากำลังที่เตรียมไว้ดูแลการชุมนุมโดยใช้ตำรวจ 3 พันนาย และทหาร 6 พันนายนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การที่ใช้ทหารถึง 2 เท่าของตำรวจนั้นทำให้ประชาชนเข้าใจเสียทีว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นของทหาร การเตรียมกำลังมากมายขณะนี้ต้องถามนายกรัฐมนตรีว่าเสียสติหรือไม่ และอวัยวะส่วนหัวคล้ายกับกุ้งไปแล้วหรืออย่างไร เพราะความจริงไม่ต้องใช้ทหารมากมายขนาดนั้น ทหารอยู่ในฐานะเพียงผู้ช่วยพนักงาน เทียบไม่ได้เลยกับการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังมีข่าวแปลกๆ ด้วยว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดซ้อมยิงปืนแล้วพบว่ายิงแม่นก็จะนำไปรักษาความเรียบร้อยในวันชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงด้วย แต่เราไม่หวั่นไหว
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะเปลี่ยนพนักงานสอบสวนคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการให้ชัดเจนไปเลย ให้เอาตำรวจที่มีชื่ออยู่ติดริมฝีปากของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ มาเป็นพนักงานสอบสวนไปเลย แสดงให้เห็นกันชัดๆ อย่าเอาไปยัดใส่มือ ผบ.ตร. และหากจะเปลี่ยนจริงก็ขอให้เปลี่ยนในวันที่ 27 มี.ค.ไปเลย ส่วนคดีของคนเสื้อแดงนั้นเราไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ ใครจะมาเป็นพนักงานสอบสวนเราก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เนื่องจากเราบริสุทธิ์ใจและมั่นใจว่าไม่เคยทำผิดร้ายแรง
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงในขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมเท่าไหร่ แต่คาดว่าจะชุมนุมยืดเยื้อ มาตรการสกัดกั้นของรัฐบาลนั้นจะยิ่งทำให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมมากยิ่งขึ้น ยืนยันว่าจะไม่มีความรุนแรงใดๆจากคนเสื้อแดง หากจะเกิดขึ้นก็เป็นการสร้างสถานการณ์ มั่นใจว่าควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้เพราะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันคนเสื้อแดงก็มีจิตวิญญาณความเป็นประชาธิปไตยที่จะควบคุมกันเอง ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย สำหรับอาวุธนั้นไม่มีแน่นอน เว้นเสียแต่ไข่ไก่ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นอาวุธร้ายแรงเท่านั้น