ปธ.นสพ.แนวหน้า ปฏิเสธไม่เคยนัดกินข้าวกับองคมนตรีเพื่อโค่นล้ม “ทักษิณ” แขวะอดีตนายกฯ กลายเป็นนักกุข่าวรายวัน ยอมรับเมื่อครั้งอดีตเคยถูกร้องขอให้ปรับท่าทีในการนำเสนอให้เขียนข่าวในเชิงสร้างสรรค์ แต่ได้ปฏิเสธไปจนถูกสั่งระงับโฆษณา ชื่นชมทักษิณเป็นคนฉลาดแต่โลภ กรรมสนองทันตาเห็นจนกลายเป็นคนไร้แผ่นดินเช่นทุกวันนี้
วันนี้ (24 มี.ค.) นายวารินทร์ พูนศิริวงศ์ ประธานหนังสือพิมพ์แนวหน้า ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวยามเช้าริมบ้านเจ้าพระยา ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอลิงก์เวทีคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยพาดพิงว่าลูกชายเจ้าของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้มาบอกกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่าคุณพ่อของเขาได้ไปกินข้าวกับองคมนตรีเพื่อหาทางร่วมมือกันโค่นล้มตัวเขาว่า ไม่เคยไปกินข้าวหรือมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับองคมนตรีท่านใดเลย อีกทั้งมั่นใจว่าองคมนตรีซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์คงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง และไม่อยากจะคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพยายามจะสื่อไปถึงสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ แต่เชื่อแล้วว่าวันนี้อดีตนายกฯ คนนี้ จะกลายเป็นนักกุข่าวรายวันไปแล้ว
นายวารินทร์กล่าวยอมรับว่า ในอดีตที่ผ่านมาสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเคยพบกัน 2-3 ครั้งโดยขอร้องให้เสนอข่าวไปในทางสร้างสรรค์ โดยเฉพาะคอมลัมนิสต์ แต่ก็ได้ปฏิเสธไป และตลอดช่วงที่รัฐบาลทักษิณบริหารประเทศ หนังสือพิมพ์แนวหน้าจะไม่มีโฆษณาเข้า เนื่องจากเสนอข่าวตามเป็นจริงแม้จะไม่รายได้จากการขายโฆษณาก็ตาม
นายวารินทร์กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้สั่งฟ้องร้องหนังสือพิมพ์แนวหน้าประมาณ 40 คดี แต่ขอขืนยันว่า 30 ปีที่ผ่านมา หนังสือแนวหน้าไม่เคยยอมก้มหัวให้นักการเมืองโกง โดยเฉพาะนักการเมืองมหาเศรษฐีอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณที่ถือว่าฉลาดแต่ทุจริตคอร์รัปชันก็ไม่อยู่ข่ายที่จะละเว้น ในที่สุดกรรมก็สนองกลายเป็นคนที่ไม่มีแผ่นดินอยู่เช่นทุกวันนี้
วันนี้ (24 มี.ค.) นายวารินทร์ พูนศิริวงศ์ ประธานหนังสือพิมพ์แนวหน้า ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวยามเช้าริมบ้านเจ้าพระยา ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอลิงก์เวทีคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยพาดพิงว่าลูกชายเจ้าของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้มาบอกกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่าคุณพ่อของเขาได้ไปกินข้าวกับองคมนตรีเพื่อหาทางร่วมมือกันโค่นล้มตัวเขาว่า ไม่เคยไปกินข้าวหรือมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับองคมนตรีท่านใดเลย อีกทั้งมั่นใจว่าองคมนตรีซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์คงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง และไม่อยากจะคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพยายามจะสื่อไปถึงสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ แต่เชื่อแล้วว่าวันนี้อดีตนายกฯ คนนี้ จะกลายเป็นนักกุข่าวรายวันไปแล้ว
นายวารินทร์กล่าวยอมรับว่า ในอดีตที่ผ่านมาสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเคยพบกัน 2-3 ครั้งโดยขอร้องให้เสนอข่าวไปในทางสร้างสรรค์ โดยเฉพาะคอมลัมนิสต์ แต่ก็ได้ปฏิเสธไป และตลอดช่วงที่รัฐบาลทักษิณบริหารประเทศ หนังสือพิมพ์แนวหน้าจะไม่มีโฆษณาเข้า เนื่องจากเสนอข่าวตามเป็นจริงแม้จะไม่รายได้จากการขายโฆษณาก็ตาม
นายวารินทร์กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้สั่งฟ้องร้องหนังสือพิมพ์แนวหน้าประมาณ 40 คดี แต่ขอขืนยันว่า 30 ปีที่ผ่านมา หนังสือแนวหน้าไม่เคยยอมก้มหัวให้นักการเมืองโกง โดยเฉพาะนักการเมืองมหาเศรษฐีอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณที่ถือว่าฉลาดแต่ทุจริตคอร์รัปชันก็ไม่อยู่ข่ายที่จะละเว้น ในที่สุดกรรมก็สนองกลายเป็นคนที่ไม่มีแผ่นดินอยู่เช่นทุกวันนี้
