นายกฯ แจง 3 ข้อกล่าวหา “ไอ้ตู่” ยันไม่ได้แก้กฎหมายช่วยเหลือพันธมิตรฯ ชี้ กฎหมายไม่มีผลบังคับย้อนหลัง พร้อมโชว์บัตรสมาชิกพรรคตั้งแต่เข้าครั้งแรก เย้ยได้ข้อมูลผิดเพี้ยน ย้ำผ่านการเกณฑ์ทหารมาจริง ปัดไม่เคยกลัวกองทัพ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอบข้ออภิปราย
วันนี้ (19 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงญัตติของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายใน 3 ประเด็นหลัก คือ การที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือกรณีปิดสนามบินของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารของนายกรัฐมนตรี และการเป็น ส.ส.โดยไม่เป็นสมาชิกพรรค ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุม โดยระบุว่า เรื่องการปิดสนามบิน รัฐบาลไม่เคยช่วยเหลือหรือลดโทษให้ผู้กระทำผิด ซึ่งกฎหมายใหม่ที่คณะรัฐมนตรีผ่านออกมา ไม่มีผลกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่ ส่วนกรณีไม่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ และเป็นการรับข้อมูลที่ผิดพลาดของนายจตุพร ซึ่งให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนว่าตนเป็นสมาชิกในเดือนมิถุนายน ปี 2535 ซึ่งในความเป็นจริง คือ เดือนมกราคม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงบัตรสมาชิกพรรค และสมุดบัญชีของพรรค ตั้งแต่เข้าสมัยเข้าเป็นสมาชิกพรรคครั้งแรกเป็นการยืนยันด้วย
ส่วนเรื่องการหนีทหารนั้น นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่ามีการผ่อนผัน และได้ขึ้นทะเบียนในเดือน ก.ค. 2529 และมีต้นขั้ว นอกจากนี้ ช่วงปลายปี 2530-2532 ได้ผ่อนผัน ด้วยเหตุผลว่ามีความต้องการไปศึกษาต่อ ต่อมาในกลางปี 2530 ก็เริ่มรับราชการทหาร การสอนที่ ร.ร.นายร้อย แต่ไม่มียศ เพราะยังไม่ได้ผ่านการฝึก แต่จะมีการจัดหลักสูตรเป็นรอบๆ เหมือนฝึกอบรม ก็ต้องรอเป็นรุ่น เป็นหลักสูตร ฝึกเหมือน รด. โดยฝึกต่อเนื่อง ช่วงแรกบริเวณถนนวิภาวดี จากนั้นก็ที่เขาชนไก่ เมื่อฝึกเสร็จได้ขอพระราชทานยศ ได้ขอเอกสารหลักฐาน รวมทั้ง สด 9 ที่ทำหาย ก็ขอใบแทน และได้เป็นว่าที่ ร.ต. และ ร.ต. จากนั้นปลายปี 2531 ทางมหาวิทยาลัยประสานมา จึงตัดสินใจไปเรียนต่อ ทำเรื่องลาไปปฏิบัติภารกิจและได้รับอนุมัติให้ลาออก ถูกต้องทุกประการ สุดท้ายทำหน้าที่ในการรับราชทหารหรือยังนั้น การรับราชการทหารตามระเบียบ ตามวุฒิ 1 ปี ตนทำเกิน 1 ปีแน่นอน ทำถูกตามกฎหมาย ไม่ได้ขาดคุณธรรม จริยธรรม หรือสร้างมาตรฐานใหม่ให้ประเทศไทย ทุกเรื่องไม่มี 2 มาตรฐาน และพร้อมชี้แจงหากมีข้อสงสัย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกรณีที่ นายจตุพร กล่าวหาว่า ตนเองหวาดกลัวต่อกองทัพ โดยยืนยันว่า ไม่เคยรู้สึกแบบนั้น และมีนโยบายที่ชัดเจนอยู่แล้ว