ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์ 1 ชั่วโมงแรก พยายามโยงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส จับมือทีพีไอ-บริษัทน้องชายประดิษฐ์ ฟอกเงินมาใช้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 48 พร้อมทำตัวเป็นพนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหา ปชป.ทุจริต ขู่ถึงขั้นยุบพรรค
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.30 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลซึ่งฝ่ายค้านเป็นผู้ยื่นญัตติ โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่าบรรจุญัตติเร็วขึ้นกว่าที่กำหนดซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะฝ่านค้านมีข้อมูลพร้อมอยู่แล้ว โดย ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์แจงบัญชีทรัพย์สินไม่ตรงกับยอดบริจาค ถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มีการยักย้ายถ่ายเท ผ่านบริษัทน้องชายนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ไปหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ชี้แจงงบดุลเงินสนับสนุนพรรคการเมืองปี 48 เป็นเท็จ ไม่แจ้งทรัพย์สินต่อ กกต.อย่างโปร่งใส พร้อมโต้แย้งว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ถือเป็นเรื่องเก่าแต่เป็นเรื่องบ่งบอกถึงสถานะ เพราะหากรัฐบาลนี้มีความผิดตามที่กล่าวหาจริง พรรค ปชป.ก็จะถูกยุบ นายกถูกตัดสิทธิก็จะไม่มีพรรคประชาธิปัตย์และไม่มีนายกรัฐมนตรีที่ชื่ออภิสิทธิ์
ร.ต.อ.เฉลิม ได้พยายามอภิปรายเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง บ.แมซไซอะ บิสซิเนส แอนด์ ครัสชั่น จำกัด จดทะเบียน 1 ล้านบาท เช่าทาวน์เฮาส์เล็กๆ มีพนักงานบริษัท 4 คน ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณา บริษัท พีทีไอ โพลีน ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และกลุ่มของน้องชายนายประดิษฐ์ ภัทรประดิษฐ์ เลขาธิการประชาธิปัตย์ในขณะนั้น ได้ร่วมกันฟอกเงิน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์ จับมือกันทำนิติกรรมอำพราง เพื่อนำเงินที่ผิด กม.จากตลาดหลักทรัพย์มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2548
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวอภิปรายพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเมื่อปี 2539 ได้ยื่นญัตติอภิปรายเรื่องสัญชาติของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีในขณะที่ ซึ่งด่านายบรรหารอยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลา 8 ชั่วโมง แต่ตนเองดำรงในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม จึงไม่สามารถอภิปรายตอบโต้ได้
จากนั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ลุกประท้วง โดยขออย่าให้ ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายวกวนไม่เข้าประเด็นและให้นำเสนอข้อเท็จจริง อย่าตั้งข้อกล่าวหา
