กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือเอฟทีเอว็อทช์ ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อ 10,000 ชื่อเสนอกฎหมายจัดทำสัญญาระหว่างประเทศ จี้สภาชะลอกฎหมายไปก่อน เพื่อนำมาถกคราวเดียวกัน หากไม่ได้ ขอประชาชนมีเอี่ยวเป็นกรรมาธิการฯ ด้าน “สามารถ” โยนที่ประชุมสภาพิจารณา
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่รัฐสภา กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอว็อทช์) นำโดยนายจักรชัย โฉมทองดี ได้เข้ายื่นรายชื่อประชาชนจำนวน 11,020 คน เพื่อเสนอร่างกฎหมาย การจัดทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ (ฉบับประชาชน) ต่อประธานรัฐสภา โดยมีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาคนที่ 1 เป็นคนรับหนังสือแทน
โดยนายจักรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายที่มีลักษณะเดียวกัน คือ พ.ร.บ.ขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา พ.ศ... ที่นำเสนอโดยรัฐบาล แต่มีเนื้อหาที่มีปัญหาอยู่ 3 ข้อ คือ กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนกระทำผ่านทางสื่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น การจัดการรับฟังผลกระทบจัดโดยหน่วยงานของราชการไม่ใช้หน่วยงานที่มีความเป็นกลาง และเมื่อนำเสนอเข้าสู่สภาก็ไม่ได้ให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอีก ถือว่าประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฏรชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไปก่อนเพื่อที่จะได้นำร่างฉบับประชาชนมาพิจารณาในคราวเดียวกัน ซึ่งจะได้มีสัดส่วนของฝ่ายประชาชนเป็นกรรมาธิการด้วย แต่หากไม่สามารถชะลอได้ก็ขอให้ที่ประชุมเพิ่มสัดส่วนกรรมาธิการที่มาจากภาคประชาชนด้วย
ด้านนายสามารถ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 5 ที่บัญญัติให้ต้องมี พ.ร.บ.ขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา ซึ่งขณะนี้ร่างดังกล่าวได้อยู่ในระเบียบวาระแล้ว ส่วนจะชะลอหรือขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุม ทั้งนี้กฎหมายที่ประชาชนเสนอนั้นกระบวนจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้องประมาณ 3-4 เดือน เพราะต้องไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กว่าจะผ่านขั้นตอนการรับหลักการ และการประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ก็ต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ จึงขอให้มั่นใจในการพิจารณาของสภาฯ