“เพื่อแม้ว” เรียงลำดับซักฟอก รมต.“มาร์ค-ประดิษฐ์-กษิต-กรณ์-ชวรัตน์-บุญจง” ตามลำดับ เผย ส.ส.จองกฐิน “มาร์ค” มากสุด ถึง 7 คน รองมาเป็น “กษิต” มอบ “เป็ดเหลิม” หัวหอกเปิดและปิดอภิปราย เล็งเจรจาหารือวิปรัฐขอขยายเวลาเพิ่ม พร้อมขู่ วอล์กเอาต์ “พ.ร.บ.ขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา”
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่า เบื้องต้นที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า จะอภิปรายนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเรียงตามลำดับดังนี้ 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 2.นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง 3.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 4.นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง 5.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และ 6.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ทั้งนี้ ในเบื้องต้นมีส.ส.ของพรรคแสดงความจำนงขออภิปรายทั้งสิ้น 40 คน ส่วนจะมีการขยายเวลาอภิปรายออกไปหรือไม่นั้น ต้องรอประชุมหารือกับวิปรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (18 มี.ค.) ก่อน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับจำนวนผู้อภิปรายที่ได้จัดไว้
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่จะทำหน้าที่อภิปรายเป็นคนแรกนั้น คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะทำหน้าที่สรุปการอภิปรายด้วย ส่วนผู้ที่จะอภิปรายเป็นคนที่ 2 คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน นอกจากนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน จะขึ้นอภิปรายในประเด็นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจด้วย
นายวิทยา ยังกล่าวถึงการพิจารณา พ.ร.บ.ขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญาที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอด้วยว่า พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แม้จะใช้เสียงข้างมากผ่าน พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ รวมทั้งสามารถตั้งคณะกรรมาธิการได้ แต่ฝ่ายค้านจะไม่ร่วมด้วย ซึ่งอาจจะถึงขั้นวอล์กเอาต์ เพราะฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ที่ขัดรัฐธรรมนูญ
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย แจ้งความจำนงขออภิปราย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มากที่สุด ซึ่งมีผู้แสดงความจำนงประมาณ 7 คน รองลงมา คือ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีผู้แสดงความจำนงประมาณ 5-6 คน ทั้งนี้ นายกษิต นอกจากจะถูกอภิปรายในประเด็นการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และกรณีปราสาทเขาพระวิหารแล้ว ยังมีประเด็นการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการฟื้นฟูภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยของกระทรวงต่างประเทศด้วย ซึ่งพรรคฝ่ายค้านจะเชื่อมโยงให้เห็นว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น เป็นลักษณะของการต่างตอบแทนให้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
