นายกรัฐมนตรี ระบุที่ประชุมกอ.รมน.อนุมัติกำลังพล 4,000 อัตราลลงพื้นที่ภาค 4 ส่วนหน้า เน้นยุทธวิธีตรึงกำลังกดดันฝ่ายก่อความไม่สงบ ยอมรับฝ่ายตรงข้ามล้างสมองเยาวชนดึงเข้าไปเป็นแนวร่วม
วันนี้ (12 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ ผอ.รมน.กล่าวภายหลังการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารบก ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมว่า ส่วนใหญ่ได้เป็นการหารือโครงสร้างใหม่ของ กอ.รมน.การอนุมัติกำลังพลจำนวน 4,000 อัตรา ให้กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และพื้นที่ตามแนวชายแดน
ขณะที่ปัญหาชายแดนภาคใต้นั้น ได้ขอให้มีการรายงานสรุปผลการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ ก่อนที่จะมีการต่ออายุในเดือนหน้า
ขณะที่ปัญหาชาวโรฮิงยา และการค้ามนุษย์ได้มีการหารือกันบ้าง เพราะอาจมีความเชื่อมโยงกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงปัญหาเรื่องยาเสพติดด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในภาคใต้ขณะนี้ว่า ยังคงใช้วิธีการตรึงกำลัง ซึ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามถูกกดดัน และปฏิบัติการได้ลำบากมากขึ้น จึงมีการหันมาใช้รูปแบบที่รุนแรง เพื่อสร้างความหวาดกลัว อีกทั้งพบว่า มีการดึงหนุ่มสาวเข้าไปเป็นแนวร่วม ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องรีบหยุดยั้ง ไม่ให้ขยายศักยภาพ ซึ่งจะใช้วิธีให้การศึกษา เพื่อสร้างโอกาสให้กับเยาวชน
วันนี้ (12 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ ผอ.รมน.กล่าวภายหลังการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารบก ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมว่า ส่วนใหญ่ได้เป็นการหารือโครงสร้างใหม่ของ กอ.รมน.การอนุมัติกำลังพลจำนวน 4,000 อัตรา ให้กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และพื้นที่ตามแนวชายแดน
ขณะที่ปัญหาชายแดนภาคใต้นั้น ได้ขอให้มีการรายงานสรุปผลการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ ก่อนที่จะมีการต่ออายุในเดือนหน้า
ขณะที่ปัญหาชาวโรฮิงยา และการค้ามนุษย์ได้มีการหารือกันบ้าง เพราะอาจมีความเชื่อมโยงกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงปัญหาเรื่องยาเสพติดด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในภาคใต้ขณะนี้ว่า ยังคงใช้วิธีการตรึงกำลัง ซึ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามถูกกดดัน และปฏิบัติการได้ลำบากมากขึ้น จึงมีการหันมาใช้รูปแบบที่รุนแรง เพื่อสร้างความหวาดกลัว อีกทั้งพบว่า มีการดึงหนุ่มสาวเข้าไปเป็นแนวร่วม ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องรีบหยุดยั้ง ไม่ให้ขยายศักยภาพ ซึ่งจะใช้วิธีให้การศึกษา เพื่อสร้างโอกาสให้กับเยาวชน