ปธ.คกก.อิสระศึกษาการปฏิรูปการเมือง ยืนยันความเป็นกลางปฏิเสธนอมินิกลุ่มอำนาจ ระบุไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง ใครจะมาถอดถอนไม่ได้ ด้าน"ปู่ชัย"ไม่ขอรับตำแหน่งคณะกรรมการ แนะต้องไม่เคยเกี่ยวข้องกับการร่างรธน.ฉบับปี 40และ50 ติงฝ่ายค้านอย่าตั้งป้อมไม่เห็นด้วยเรื่อยเปื่อย
วันนี้ (11 มี.ค.) นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒาการเมืองและประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อศึกษารับฟังความคิดเห็นและเสนอแนะการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง กล่าวชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาจากพรรคเพื่อไทยว่าการมาเป็นประธานเพื่อดำเนินการปฏิรูปการเมืองนั้นเพราะมีกลุ่มนักการเมืองบางคน และกลุ่มสีเขียวสนับสนุนว่า ไม่เป็นความจริง และตนไม่เคยมีกลุ่มอำนาจฝ่ายใดมาทาบทาม มีเพียงสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเห็นว่าตนไม่ได้อิงกับทั้งฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จึงเห็นว่าเหมาะสมที่จะมาทำงานตรงจุดนี้ ดังนั้น ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงข่าวโคมลอย และตนไม่ขอไปตอบโต้ หรือต่อสู้ด้วย เพราะต้องการอยากให้เกิดความสมานฉันท์ในประเทศ
ส่วนกรณีที่ศิษย์เก่าสถาบันพระปกเกล้าบางคนเตรียมล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งนั้น นายสุจิต กล่าวว่า การทำงานตรงนี้ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง บุคคลทั่วไปไม่สามารถถอดถอนได้ เพราะตำแหน่งดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากสภาสถาบันพระปกเกล้า หากสภาสถาบันฯ เห็นว่าตนไม่เหมาะสมก็ดำเนินการถอดถอนได้ และตนก็พร้อมยุติหน้าที่
ด้าน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าจะไม่ขอเข้าร่วมเป็น 1 ใน 50 กรรมการอิสระเพื่อศึกษารับฟังความคิดเห็นและเสนอแนะการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครองอย่างแน่นอน เนื่องจากต้องการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง โดยจะขอทำหน้าที่เพียงแต่ให้คำเสนอแนะ แนวทางบางอย่างที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ส่วนสเปกของบุคคลที่จะเข้าร่วมในคณะกรรมการอิสระนั้น เบื้องต้นส่วนตัวเห็นว่าควรจะเป็นบุคคลที่มีความรอบรู้ และจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เคยเป็นผู้ร่าง หรือเป็นกรรมการผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับปี 2540 และ 2550 มาก่อน ส่วนควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ตนไม่เห็นว่าในช่วงเวลานี้ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะการสร้างความสามัคคีและสมานฉันท์ในชาติ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจควรจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า
นอกจากนี้ นายชัยยังได้เรียกร้องให้ทางพรรคฝ่ายค้านที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่ยอมรับคณะกรรมการอิสระชุดนี้หันมาร่วมมือกับคณะกรรมการอิสระ เพื่อร่วมเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เพราะหากยังคงตั้งอคติ ตั้งป้อมคัดค้าน ทั้งที่ทางคณะกรรมการชุดดังกล่าวยังไม่ได้ลงมือทำงานก็คงจะไม่สามารถหาจุดร่วมระหว่างกันในการแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน