“ผบ.ตร.” นั่งหัวโต๊ะตั้งวอร์รูมในทำเนียบฯ รับมือเสื้อแดง โฆษก บช.น.เผยมีแผนเปิดทางให้นายกฯ เข้าพรุ่งนี้ ย้ำจะบังคับใช้กฏหมายอย่างละมุนละม่อม ยืนยันจะรักษาพื้นที่ให้ดีที่สุด ประเมินพลังไม่น่าห่วงแต่ก็จะไม่ประมาท
วันนี้ (24 ก.พ.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการมัฆวาฬที่ย้ายมาจาก บช.น.
จากนั้น พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองและโฆษก บช.น.แถลงผลการประชุมว่า มีการประชุมเตรียมความพร้อมดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตามแผนกรกฎที่ สตช.วางไว้ โดยเน้นเรื่องของการรักษาพื้นที่ที่เป็นทรัพย์สินทางราชการ โดยเฉพาะทำเนียบฯ ที่ยืนยันว่าผู้ชุมนุมจะเข้ามาในทำเนียบไม่ได้ สำหรับการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมก็จะเป็นไปอย่างละมุนละม่อม และยึดหลักของกฎหมายเป็นหลัก ทั้งนี้มีการเตรียมกำลังตำรวจอยู่ 24 กองร้อย ส่วนฝ่ายทหาร 21 กองร้อย ที่พร้อมจะเคลื่อนมาสนับสนุนการทำงานของเรา แต่ในขณะนี้มีกำลังในทำเนียบไม่ถึง
เมื่อถามว่าหากบุกเข้ามาในทำเนียบได้จะดำเนินการอย่างไร โฆษกฯ กล่าวว่า ก็คงจะดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชุมนุมทราบ ซึ่งจากการประสานกับทางผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะไม่เข้ามาในทำเนียบรัฐบาล เมื่อถามว่าตำรวจเองก็ไว้ใจทางผู้ชุมนุม โฆษก บช.น.กล่าวว่า ก็ไม่ได้ไว้ใจ แต่ก็ได้เตรียมการป้องกันไว้ โดยมีกำลังที่วางไว้ทั้งภายในและรอบนอกทำเนียบ
เมื่อถามว่ามีการประสานงานกับแกนนำหรือยัง โฆษก บช.น.กล่าวว่ามีการประสานบอกแจ้งไปแล้ว ยังไม่ได้รับคำตอบ ก็อยู่ที่ผู้ชุมนุมที่จะต้องมีการประเมินสถานการณ์ว่ามีมากน้อยเพียงไร อย่างไรก็ตาม ถ้าบุกเข้ามาในทำเนียบคงจะดำเนินคดีตามกฎหมายแบบเดียวกัน ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมเขายืนยันแล้วเขาก็คงจะเคารพกฎหมาย คงจะไม่มีการฝ่าฝืน ถ้าเข้ามาเราก็ดำเนินการตามกฎหมายเป็นหลัก เพราะเรายึดตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าตำรวจกับทหารที่เข้ามามีมากเกินไปหรือไม่ พล.ต.ต.สุพร หัวเราะก่อนที่จะกล่าวว่า กำลังเราก็เตรียมไว้จากการประเมินที่สูงเอาไว้ก่อน เมื่อถามว่าจะประสานให้เลิกชุมนุมภายในวันนี้หรือไม่ พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ในส่วนนั้นก็อยู่ที่การเจรจา เพราะอย่างที่เรียนว่า ผู้ชุมนุมก็ต้องประเมินตัวเองว่า จำนวนคนมีมากน้อยเพียงไร
“การประเมินก็เป็นหลักหมื่น แต่ตอนนี้เท่าที่รวบรวมตัวเลข ที่สนามหลวงก็ยังไม่ถึงหลักหมื่น ก็ประมาณ 8 พันคน ส่วนที่ ผบ.ช.น.เคยบอกว่าจะมีผู้ชุมนุม 2-3 หมื่นคนนั้นก็ประเมินสูงเอาไว้ก่อน แต่จะมากน้อยแค่ไหนคงกำหนดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้มีความมั่นใจว่ามาตรการมีความรัดกุมและยืนยันว่าเราคงจะปฏิบัติตามแผน” พล.ต.ต.สุพร กล่าว
พล.ต.ต.สุพร กล่าวถึงการสับเปลี่ยนกำลังตำรวจว่า ตำรวจทุกนายได้รับคำสั่งว่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่ยาว 72 ชั่วโมง เพื่อรอกำลังชุดใหม่มาสับเปลี่ยน เราคงไม่สามารถสับเปลี่ยนกำลังได้ภายในเวลา 12 ชั่วโมงเหมือนที่ผ่านมา แต่คาดว่าการชุมนุมคงจะยาวขนาดนั้น
เมื่อถามว่านายกฯ และนายสุเทพสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ท่านกำชับสั่งการเป็นพิเศษก็คือให้เราปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความละมุนละม่อม และรักษาสถานที่ราชการ นั่นคือสิ่งที่เรารับคำสั่งมาแล้วเราก็ต้องดูแลตามนั้น และท่านเชื่อมั่นว่าตำรวจจะดูแลได้
เมื่อถามว่าตำรวจจะปล่อยให้ผู้ชุมนุมเข้าในทำเนียบเหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า เราคงจะทำทุกวิถีทางที่จะเจรจา และเราก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่าเขาจะไม่เข้ามาในทำเนียบ อย่างไรก็ตาม ในแต่ละภาคส่วนก็มีแผนรองรับความปลอดภัยสถานที่ราชการของตัวเองไว้แล้ว ถามว่าตอนนี้มีข่าวเรื่องมือที่ 3 เข้ามาป่วนหรือไม่ พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่ก็ไม่ประมาท
ส่วนที่นายกฯ บอกว่าจะเข้ามาทำงานในทำเนียบในวันพรุ่งนี้นั้นตำรวจมีแผนเปิดทางให้นายกเข้ามาอย่างไร พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า มีการเตรียมแผนเอาไว้แล้ว ส่วนเส้นทางในการเข้ามายังเปิดเผยไม่ได้ ที่บอกว่าจะเดินเท้าเข้ามาก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เราคงให้อย่างนั้นไม่ได้ เมื่อถามว่าตำรวจจะบอกนายกฯ หรือไม่ว่าอย่าเพิ่งเข้ามาจะดีกว่า โฆษก บช.น.กล่าวว่า อันนี้เรายังอยู่ในการเตรียมการเตรียมแผนปฏิบัติการของเราอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางมาถึงนั้นก็เป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งก็ยังมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลเข้ามาทำงานอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็ถือว่าน้อยมาก โดยใช้เส้นทางเข้ามาทางสะพานอรทัย และประตู 5 ฝั่งถนนราชดำเนิน
โดยในส่วนของการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลนั้น เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งทหารที่พักผ่อนและวางกำลังในทุกจุดรอบทำเนียบ โดยเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ไม่มีพกอาวุธหนัก มีเพียงกระบอง โล่ หมวกกันน็อก และสนับแข้ง-สนับแขน เพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการเตรียมรถบรรทุกผู้ต้องหาจาก สน.ต่างๆ รถดับเพลิง รถฉีดน้ำ รถฉายสปอตไลต์ รถเก็บขยะส่วนของการปิดทางเข้า-ออกทำเนียบก็มีการนำแท่งคอนกรีตขนาดใหญ่ไปวางขวางไว้ทุกประตู
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีการรถบดถนน รถเกลี่ยถนน รถแบ็กโฮ ซึ่นำมาปรับปรุงภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลก็ได้มีการนำไปจอดขวางทางเข้าบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ และหลายจุด
สำหรับประตู 4 ตำรวจได้นำลวดหนามเพลงมาวางด้านในประตูทางเข้า โดยวางหนามเพลงยาวจากรั่วทำเนียบรัฐบาล ยาวไปจนสุดทางเข้าด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็ก และบล็อกปูนกั้นถนน มาปิดกั้นทางเข้าฝั่งสะพานชัมยมรุเชฐอย่างหนาแน่น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดทางเข้าเพียงทางเดียวคือฝั่งสะพานอรทัย
นอกจากนั้นตำรวจได้ประกาศผ่านลำโพงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนตึกสันติไมตรี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวเพื่อเตรียมความพร้อม เนื่องจากผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงสะพานมัฆวานฯ และยังได้กล่าวเตือนผู้ชุมนุมด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำสั่งของมากั้นเพื่อป้องกันมือที่ 3 ที่จะเข้ามายังบริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งบริเวณภายในได้มีการวางรั้วรวดหนามไว้ด้วย ดังนั้น การปีนเข้ามาอาจทำให้เกิดอันตรายได้ และยังได้ร้องขอผู้ชุมนุมว่าขอให้การชุมนุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อมิให้เกิดความรุนแรง และขอให้เจ้าหน้าที่อย่างใช้ความรุนแรงกับประชาชน และประชาชนอย่าใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเตือนไปยังแกนนำว่าเคยเป็นถึงรัฐมนตรีมาแล้ว การบุกรุกสถานที่ราชการเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ถ้ามีใครเข้ามาก็ดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้มีการตั้งกล้องวิดีโอถ่ายภาพการชุมนุมในหลายจุดเพื่อบันทึกภาพเอาไว้ดำเนินคดีในภายหลัง และยังได้มีการต่อสายตรงไปยังศูนย์ปฏิบัติการที่มี ผบ.ตร.นั่งบัญชาการอยู่ด้วย