โฆษกส่วนตัวนายกฯ ตอบโต้ไข่แม้ว ป้ายสี รมว.มะกันเลี่ยงเยือนไทย ยันไม่มีหัวเจรจาและไทยไม่ใช่คู่ปัญหาสหรัฐฯ ตบหน้า “ฮิลลารี” ไม่ได้มาชอปปิ้ง แจงยาวแผน “มาร์ค” เดินสายพบผู้นำสหรัฐฯ ตลอดปี
วันนี้ (22 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาให้ข่าวว่าการที่นางฮิลลารี ร็อดแฮม คลินตัน รัฐมนตรีว่าการทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา มาเยือนประเทศอินโดนีเซีย แต่ไม่ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพราะการปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นการปูดข้อมูล ให้ข่าวเลื่อนลอย ยกเมฆ การได้มาของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้มาด้วยความชอบธรรม ตนได้สอบถามจากหลายฝ่ายถึงสาเหตุที่ไม่ได้แวะมาประเทศไทย เพราะว่าไม่ได้อยู่ในแผนในการเยือนทางราชการของสหรัฐอเมริกา ไม่ทราบว่าโฆษกนำข้อมูลมาจากไหน หรือเป็นการจินตนาการเพื่อดิสเครติดรัฐบาลและประเทศไทย
นายเทพไท กล่าวว่า ทั้งนี้ สหรัฐฯมีแผนที่จะเยือนประเทศ โดยเรียงลำดับความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นในเอเชีย 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย เพราะว่าเป็นปัญหาโลกมุสลิมที่เป็นปัญหากับอเมริกา จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นเรื่องเศรษฐกิจโลกที่อเมริกาต้องเจรจา สำหรับประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสถานะที่มีปัญหากับอเมริกา ที่ผ่านมา เอกอัคราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย ก็ได้มีการพบปะกับตัวแทนของรัฐบาลตลอดเวลา ตนคิดว่า ข้อกล่าวหาของโฆษกพรรคเพื่อไทยเป็นการพยายามสร้างความสับสนให้ประชาชนและต่างชาติ
โฆษกส่วนตัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยได้พบปะกับรัฐบาล และหารือกันตลอดเวลา รวมทั้งยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมทั้งเชิญให้เยือนกรุงวอชิงตัน ในเดือน เม.ย.นี้ รวมทั้ง นางฮิลลารี จะมาประชุมที่ประเทศไทยในเดือน ก.ค.นี้ และวันที่ 2 เม.ย.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเดินทางไปร่วมประชุม จี 20 ที่ประเทศอังกฤษ และจะได้มีโอกาสพบผู้นำสหรัฐฯ ในการประชุมดังกล่าว ในปลายปีนี้จะเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติ และเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการด้วย
เมื่อถามว่า การออกมาเปิดกำหนดการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาของนายกรัฐมนตรี เพื่อต้องการกลบข้อหาว่ารัฐบาลไทยไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากสหรัฐฯ หรือไม่ นายเทพไท กล่าวปฏิเสธว่า การเดินทางมาของนางฮิลลารีเป็นทางราชการของทางสหรัฐฯ ที่ได้มีการกำหนดไว้แล้ว เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีที่มีกำหนดการเดินทางไปสหรัฐฯ และการมาแถบเอเชียครั้งนี้ไม่ได้มาชอปปิ้ง แต่ทุกประเทศที่เดินทางไปมีข้อในการเจรจาร่วมกัน ขณะที่ประเทศไทยไม่มีข้อเจรจาร่วมกัน