“เพื่อแม้ว” หาหัวไม่เจอ คว้าจับ “เป็ดเหลิม” เล็งดันนั่งหัวหน้าพรรครับหน้าเสื่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รู้ตัวแม้แพ้ก็ยอม โวข้อมูลดีจนกดดัน “อภิสิทธิ์” แทบอยู่ไม่ได้เพราะหน้าบาง เตรียมคุ้ยข้อมูลรัฐมนตรีทุจริตแอร์พอตลิงก์ตั้งแต่สมัย “ชายจืด” เตรียมยื่นหนังสือผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา วินิจฉัย “อภิสิทธิ์” ส่ง SMS อ้าง ปปช.ล่าช้า ยันสืบชะตา “แม้ว” เป็นเรื่องปกติ
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่พรรครัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีและต้องมีการยื่นบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ แทนนายอภิสิทธิ์ว่า ขณะนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่งพร้อมสนับสนุน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ แทนนายอภิสิทธิ์ เพราะเท่าที่คุยกันภายพรรคเห็นตรงกันว่าไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ ร.ต.อ.เฉลิม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีข้อมูลที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องหลุดออกจากตำแหน่ง แม้ว่าฝ่ายค้านจะแพ้โหวต แต่กระแสสังคมก็จะกดดันจนทำให้นายอภิสิทธิ์อยู่ไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์เป็นคนหน้าบาง
นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังได้เตรียมข้อมูลเรื่องโครงการทุจริตแอร์พอร์ตลิงก์ในสนามบินสุวรรณภูมิของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว แล้วยังมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีการทุจริตกันอย่างต่อเนื่อง วันนี้บ้านเมืองเสียหายไปเยอะถ้าเราไม่ลงโทษไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้นคนผิดก็จะลอยนวล ส่วนกรณีที่นายสุธรรม นทีทอง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกมาเปิดเผยว่านมโรงเรียนมีการล๊อกสเปกของ 68 บริษัทนั้น ตนอยากให้เอาความจริงมาพูดกัน และหากมีหลักฐานว่ามีบริษัทใดบ้าง ก็ขอให้นำออกมาเปิดเผย
นอกจากนี้ นายสุรงพงษ์ยังกล่าวอีกว่า ถึงกรณีที่ตนได้ไปยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตีความกรณีที่นายอภิสิทธิ์ได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์ไปยังประชาชนโดยให้ประชาชนตอบกลับมายังเครือข่ายทรู ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช.ทำงานล่าช้า ตนจึงได้ทำหนังสือไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาให้พิจารณาว่านายอภิสิทธิ์ขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลกฎหมายจริยธรรมทางการเมืองและรัฐธรรมนูญมาตรา 279 หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ตนได้ร่างหนังสือเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะยื่นได้ในเร็วๆนี้ หากเปรียบกับคดีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ส่วนกรณีที่มีการสืบดวงชะตาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งมีการเอาเจ้ามาเข้าทรงนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การสืบดวงชะตาเป็นเรื่องปกติของชาวเชียงใหม่ เพื่อเป็นการสืบชะตาต่ออายุ แต่มีความพยายามที่จะผูกโยงเรื่องต่างๆ เข้ามาเพื่อให้เป็นประเด็นแล้วทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหาย ชาวเชียงใหม่รักใครรักจริง หากมีผู้ใหญ่ที่เคารพเจ็บป่วยเขาก็จะทำบุญสืบชะตาให้ ส่วนเรื่องการเอาเจ้าทรงมาเข้าพิธีนั้นตนไม่รู้แล้วแต่ใครจะคิด เพราะเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล
