ครม.เห็นชอบถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกำหนดให้วันที่ 2 มี.ค.ของทุกปี เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ”
วานนี้ (17 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.มีมติเห็นชอบในการถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกำหนดให้วันที่ 2 มี.ค.ของทุกปี เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ” ตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอ
กระทรวงแรงงาน รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยในงานช่างตั้งแต่ยังทรงศึกษาอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทรงประดิษฐ์ของเล่นด้วยพระองค์เอง เช่น เครื่องร่อน และเรือรบจำลอง หลังจากที่ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจต่างๆ มากมาย เพราะทรงตระหนักว่า ประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามต้องมีความสำคัญก่อนเสมอ และจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาเรือใบเป็นอย่างยิ่ง
ประกอบกับทรงพระปรีชาสามารถทางการช่าง จึงทำให้ทรงมีผลงานการออกแบบ และต่อเรือใบที่ดีเลิศ โดยทรงชนะเลิศการแข่งขันกีฬาเรือใบในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 พุทธศักราช 2510 ณ ประเทศไทย ด้วยเรือที่ทรงต่อขึ้นด้วยพระองค์เอง จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอัจฉริยภาพทางการช่างอย่างแท้จริง
อีกทั้งเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2513 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงาน แนะแนวอาชีพ และแข่งขันฝีมือแห่งชาติครั้งที่ 1 ณ ลุมพินีสถาน และมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับความเป็นช่างของคนไทย ดังนั้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงแรงงาน จึงเห็นสมควรถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกำหนดให้วันที่ 2 มี.ค.ของทุกปี ให้เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ”
วานนี้ (17 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.มีมติเห็นชอบในการถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกำหนดให้วันที่ 2 มี.ค.ของทุกปี เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ” ตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอ
กระทรวงแรงงาน รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยในงานช่างตั้งแต่ยังทรงศึกษาอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทรงประดิษฐ์ของเล่นด้วยพระองค์เอง เช่น เครื่องร่อน และเรือรบจำลอง หลังจากที่ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจต่างๆ มากมาย เพราะทรงตระหนักว่า ประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามต้องมีความสำคัญก่อนเสมอ และจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาเรือใบเป็นอย่างยิ่ง
ประกอบกับทรงพระปรีชาสามารถทางการช่าง จึงทำให้ทรงมีผลงานการออกแบบ และต่อเรือใบที่ดีเลิศ โดยทรงชนะเลิศการแข่งขันกีฬาเรือใบในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 พุทธศักราช 2510 ณ ประเทศไทย ด้วยเรือที่ทรงต่อขึ้นด้วยพระองค์เอง จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอัจฉริยภาพทางการช่างอย่างแท้จริง
อีกทั้งเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2513 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงาน แนะแนวอาชีพ และแข่งขันฝีมือแห่งชาติครั้งที่ 1 ณ ลุมพินีสถาน และมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับความเป็นช่างของคนไทย ดังนั้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงแรงงาน จึงเห็นสมควรถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกำหนดให้วันที่ 2 มี.ค.ของทุกปี ให้เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ”